ชัยวัฒน์ ยืนยันไม่เกี่ยว ‘บิลลี่’ หายตัว จ่ออุทธรณ์สู้คดี ลั่น ไม่เคยจับชาวบ้านบางกลอย

‘ชัยวัฒน์’ ลั่นไม่เกี่ยวการหายตัว ‘บิลลี่’ พร้อมสู้อุทธรณ์คดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง ศาลอาญาคดีทุจริตฯพิพากษาลงโทษจำคุก นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และพวกรวม 4 คน ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ กรณีการหายตัวไปของนายบิลลี่ 3 ปี คดี ม.157 จับกุม “บิลลี่” พร้อมน้ำผึ้งป่า แต่ไม่นำตัวส่งตำรวจ ยกฟ้องคดีอุ้มฆ่าทำลายศพ เหตุยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าบิลลี่เสียชีวิตแล้วหรือไม่ กระดูกที่พบระบุไม่ได้ว่าเป็นใครแล้ว

ต่อมานายชัยวัฒน์ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยตีราคาประกัน 800,000 บาท ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร

ด้าน นายชัยวัฒน์กล่าวว่า คดีนี้ศาลไต่สวนและพิจารณาสำนวนทั้งหมดด้วยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ข้อเท็จจริงทั้งหมด ที่มีกล่าวหาว่าตนกับพวกไปเกี่ยวข้องกับนายบิลลี่ โดยที่ผ่านมาพวกตนก็ยืนยันมาตลอดว่าไม่เกี่ยวข้อง กับการหายตัวไปของนายบิลลี่ แต่ตนถูกลงโทษในเรื่องการปล่อยตัวนายบิลลี่กลางทาง จำคุก 3 ปีไม่รอลงอาญา

Advertisement

“ขอบคุณทางศาลที่ให้ได้ประกันตัวออกมา และเตรียมจะยื่นอุทธรณ์อยู่แล้วในส่วนของ มาตรา 157 ในการที่ละเว้น ไม่นำตัวผู้ต้องหาไปส่งพนักงานสอบสวน โดยพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานทั่วไปนั้น มีความสุ่มเสี่ยงที่จะผิดตามมาตรา 157 กันทุกคน เพราะว่าเราอยู่ในชุมชนนั้น แล้วเราพยายามจะอยู่กับชุมชนให้ได้โดยไม่ทะเลาะกัน โดยเฉพาะไม่เคยจับชาวบ้าน จากหมู่บ้านบางกลอย จังหวัดเพชรบุรีเลย

“อย่างเหตุในคดีนี้เป็นเรื่องของน้ำผึ้งป่าที่ตามกฎหมายเดิม จะไม่สามารถให้ชาวบ้านหรือชุมชนนำของป่าออกไปขายได้ แต่ปัจจุบันนี้มีการออกกฎหมายใหม่ ให้สิทธิทำกินราษฎรได้ เก็บของป่าอยู่ภายใต้กฎหมาย ก็จะพยายามสู้ในประเด็นนี้ แต่ก็เข้าใจที่ศาลตัดสินเช่นนี้ ข้อกฎหมายกับหลักปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่นั้น ทำให้ค่อนข้างสุ่มเสี่ยง ดังนั้นวันนี้จึงเป็นกรณีตัวอย่างให้กับน้องๆ เจ้าหน้าที่อุทยานทุกคนว่าอย่าท้อในสิ่งที่เราปฏิบัติอยู่ น้องๆ ทุกคนผู้พิทักษ์ป่าทุกคนเราปกป้องป่า เราดูแลสัตว์ป่า ดูแลน้ำ เพื่อคนทั้งประเทศ เราก็จึงมีความหวังว่าในชั้นอุทธรณ์ศาลจะเมตตาขอให้เรามีที่ยืนในสังคมบ้างขณะที่เราทำงาน

“ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะไปทำร้ายใครทั้งนั้น และก็ไม่เคยจับกุมกลุ่มชาติพันธุ์ แม้แต่คนเดียว กระทั่งคนที่ไปทำร้ายป่า ที่ดูแลจนสภาพยับเยินก็ตาม ยังมีโอกาสต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ต่อไป” นายชัยวัฒน์กล่าว

Advertisement

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image