ก.แรงงานคุมเข้มความปลอดภัย ‘รถตู้สาธารณะ’ หวั่นซ้ำรอยสายกรุงเทพฯ-จันทบุรี

เมื่อวันที่ 12 มกราคม นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีรถกรุงเทพฯ-จันทบุรี ที่เกิดเหตุชนกับรถกระบะทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิต ว่า จากการสอบข้อเท็จจริงของพนักงานตรวจแรงงานพบว่า กรณีเหตุการดังกล่าวนายสุมน เอี่ยมสมบัติ เจ้าของรถตู้โดยสารเป็นผู้ขับขี่รถดังกล่าวเอง โดยห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) พลอยหยก เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการจำหน่ายตั๋วโดยสาร เตรียมสถานที่สำหรับจอดรถ ห้องพักผู้โดยสาร มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากเจ้าของรถตู้เพื่อเป็นค่าบริการดังกล่าว ไม่ได้มีนิติสัมพันธ์ในฐานะนายจ้างลูกจ้างตามพระราชบัญบัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 จึงไม่สามารถบังคับใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ ในกรณีนี้ได้

“ในงานขนส่งทางบก กฎกระทรวงฉบับ 12 ซึ่งออกตามความใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ ได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสภาพการจ้าง การทำงานสำหรับงานดังกล่าวไว้เป็นการเฉพาะ เช่น การกำหนดระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดงานไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง การห้ามไม่ให้ลูกจ้างทำงานขับขี่ยานพาหนะทำงานล่วงเวลาหากไม่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง เป็นต้น ซึ่งโทษของการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายนี้จะมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม กสร.ได้จัดทำแผนตรวจเข้มสถานประกอบการใน 5 กลุ่มกิจการ ได้แก่ 1.กิจการที่มีการใช้ปั้นจั่นหรือเครน 2.กิจการที่มีการใช้สารเคมี 3.กิจการขนส่งทางบก 4.กิจการที่มีการใช้แรงงานเด็ก 5.กิจการเกี่ยวกับประมงและต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องสภาพการจ้าง การทำงาน และความปลอดภัยในการทำงาน ตั้งแต่ต้นกุมภาพันธ์เป็นต้นไป โดยเฉพาะในกิจการขนส่งทางบกจะดำเนินการให้เสร็จก่อนเดือนเมษายน เนื่องจากในช่วงเดือนดังกล่าวเป็นเทศกาลสงกรานต์จะมีผู้ใช้รถโดยสารจำนวนมาก หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ทั้งนี้จะมีการประเมินผลการดำเนินการทุก 15 วัน” นายสุเมธ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image