วันที่ 16 มกราคม 2560 เฟซบุ๊กเครือข่ายการท่องเที่ยวภาคประชาสังคม เผยแพร่ข้อความว่า อาจารย์วราพร สุรวดี ผู้ก่อตั้งพิพิภัณฑ์ชาวบางกอกประสบอุบัติเหตุตกจากชั้น 2 กะโหลกศีรษะร้าวเมื่อหนึ่งทุ่มเศษคืนวันอาทิตย์ (15 ม.ค.) ที่ผ่านมา ได้นำส่ง รพ.กรุงเทพคริสเตียน อาจารย์อาการหนักมาก จึงส่งต่อไปยังสถาบันประสาทฯ (เลยโรงพยาบาลรามาธิบดี 200 เมตร ตรงข้ามบ้านราชวิถี) ขณะนี้อยู่ที่ห้องไอซียู ศัลยกรรมชั้น 3 อาคารรัชมงคล ท่านไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
ทั้งนี้ มีการเปิดให้เข้าเยี่ยม 3 ช่วง เวลา 12.00-13.00 น., 15.30-16.00 น. และ 17.30-18.30 น.
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายธนัญชัย อนันตชัยกร ผู้ดูแล รศ.วราพร
นายธนัญชัย กล่าวว่า ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เมื่อเวลาระหว่าง 19.00-19.20 น. รศ.วราพรพักอยู่ในเรือนไม้ซึ่งบนชั้น 2 เป็นห้องนอน โดยช่วงเวลาดังกล่าว เป็นเวลาให้อาหารแมวที่เลี้ยงไว้หลายตัว แต่แมวตัวหนึ่ง ปีนขึ้นไปบนหลังคา รศ.วราพรได้เอื้อมมือไปจับแมวเพื่อพามากินอาหาร แต่เกิดพลาดพลัดตกลงมา โดยในขณะนั้น ยามประจำพิพิธภัณฑ์ได้ยินเสียงดังโครมครามผิดปกติ จึงรีบมาดู พบว่ารศ.วราพรตกลงมาจากชั้น 2 จากนั้น ยามได้โทรศัพท์มาหาตนและเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์อีก 1 ราย เนื่องจากพักอยู่ในละแวกใกล้ๆ ระหว่างนั้น มีการโทรเรียกรถพยาบาลจากโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ซึ่งรศ.วราพรรักษาตัวเป็นประจำ โดยรถพยาบาลมาถึงอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที อย่างไรก็ตาม แพทย์ที่ตรวจอาการแจ้งว่า อาจมีเลือดออกในสมอง ต่อมา ได้ย้ายไปยังสถาบันประสาทฯ ห้องไอซียู จนถึงในขณะนี้ โดยคนไข้ยังไม่รู้สึกตัว มีญาติๆคอยดูแลใกล้ชิด
“อาจารย์วราพรเป็นคนรักแมว เลี้ยงแมวไว้หลายตัว ปกติช่วงค่ำ จะเป็นช่วงเวลาให้อาหารแมว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ อาจารย์เอื้อมมือไปจับแมวให้มากินอาหาร แต่พลาด พลัดตกลงมาจากชั้น 2 ของอาคารไม้ซึ่งเป็นที่พัก ยามได้ยินเสียงดัง เลยรีบมาดู พอพบอาจารย์ว่าตกลงมาหมดสติ จึงรีบโทรตามผมและพี่อีกคนหนึ่งชื่อพี่ศศิ ซึ่งเป็นคนโทรเรียกรถพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน แต่อาจารย์อาการหนักมาก ได้ย้ายไปที่สถาบันประสาท ฯ ผมยังหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์” นายธนัญชัยกล่าวด้วยเสียงสะอื้น
รศ.วราพรเป็นบุคคลในข่าวดัง หลังจากการระดมเงิน 10 ล้าน ซื้อที่ดินช่วยพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก (อ่านข่าว ระดมคนละร้อย หวัง 10 ล้าน! ซื้อที่ดินข้างพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก เจ้าของเดิมทุ่มแล้ว 30 ล้าน กันสร้างตึก 8 ชั้นบังแหล่งเรียนรู้)
เป็นประธานกรรมการมูลนิธิอินสาท-สอาง วัย 80 ปี ผู้ดูแลสนับสนุนกิจการด้านต่างๆ ของ ‘พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก’ ย่านบางรัก กรุงเทพฯ บุตรีของ นางสอาง สุรวดี (ตันบุญเต็ก) จบการศึกษาระดับปริญญาโท MAT. Biology (Indiana University); Dip. In Marine Science (University of Oslo) อดีตอาจารย์ประจําภาควิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร นอกจากนี้ยังเคยเป็นอาจารย์ที่ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักทะเบียนและประเมินผล
ด้วยความสนใจส่วนตัวในด้านศิลปวัฒนธรรม หลังรับมอบมรดกที่ดินและตัวบ้านย่านเจริญกรุงจากมารดา จึงปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก เพื่อรักษาสถาปัตยกรรมและข้าวของเครื่องใช้อันล้ำค่าของชาวบางกอกเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ โดยพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวประกอบด้วยที่ดินตามโฉนด 2 แปลง รวม 1-0-6 ไร่ เป็นของตกทอดตั้งแต่บรรพบุรุษ ต่อมาได้โอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง คืออาคารพิพิธภัณฑ์ทั้ง 4 หลัง อีกทั้งข้าวของต่างๆ ที่จัดแสดงอยู่ภายในให้เป็นกรรมสิทธิ์ของ กทม.ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2547 กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตบางรัก มีผู้เยี่ยมชมเดือนละกว่า 700 คน