ฟันไม่เลี้ยง! ‘อธิบดีดีเอสไอ’ เชือด ‘ขรก.-อดีตขรก.-นายทุน’ เอี่ยวหมูเถื่อน กว่า 10 ราย

ฟันไม่เลี้ยง! ‘อธิบดีดีเอสไอ’ ลั่น เอาผิด 3 กลุ่มเอี่ยวขบวนการหมูเถื่อน 161 ตู้ ส่งสำนวน ถึง ป.ป.ช. เชือด ขรก.-อดีต ขรก.-นายทุน กว่า 10 ราย ลั่น เป็นอาชญากรรมต่อความมั่นคงอาหาร อุบชื่อ เหตุอยู่ในกระบวนการ กม. ยัน ไม่หวั่นถูกกระทบ ชี้ นายกฯไฟเขียว ให้จัดการ

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงความคืบหน้าการดำเนินการกับขบวนการค้าหมูเถื่อน ว่า ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ดีเอสไอได้เร่งรัดดำเนินการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทั้งหมด ในการสืบสวนและหาพยานหลักฐานดำเนินคดีกับกลุ่มเหล่านี้ที่ถือเป็นขบวนการองค์กรอาชญากรรม ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงทางอาหารและอาชีพของเกษตรกร โดยองค์กรอาชญากรรมดังกล่าว ประกอบด้วย 3 กลุ่ม คือ นายทุน ข้าราชการการเมือง อดีตข้าราชการ โดยจากการตรวจสอบพบว่ามีความเกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงต้องดำเนินการส่งสำนวนไปถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรียบร้อยเพื่อให้ดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องกับของกลาง 161 ตู้ ซึ่งองค์กรอาชญากรรมนี้มีการนำเข้ามาในปี 2564 ส่วนอีก 2,385 ตู้ จะเร่งดำเนินคดีโดยทำควบคู่ไปกับ ปปง.ในการยึดทรัพย์ ซึ่งในจำนวนนี้ มีผู้ต้องหา 1 รายที่มอบตัวแล้ว

“เราจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่สาวไปถึงไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับคนในระดับใด หรือเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ต่างๆ ในสัปดาห์หน้าจะเห็นความคืบหน้าในเรื่องนี้ เราไม่เอาไว้ ถึงจะดำเนินการทั้งหมด ผมไม่กังวลในเรื่องนี้ ว่าจะมีผลกับการทำหน้าที่ เพราะทำตรงไปตรงมา และนายกรัฐมนตรีได้ไฟเขียวพร้อมกำชับให้ดำเนินการเต็มที่” พ.ต.ต.สุริยากล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าสามารถเปิดเผย ข้าราชการที่ระบุว่าเข้าเกี่ยวข้องได้หรือไม่ พ.ต.ต.สุริยากล่าวว่า เป็นอดีตข้าราชการการเมือง แต่มีข้อจำกัดกฎหมายในการเปิดเผยตัว โดยดีเอสไอต้องส่งรายละเอียดไปถึง ป.ป.ช.ดำเนินการก่อน

ADVERTISMENT

เมื่อถามว่าผู้ที่เกี่ยวข้องมีจำนวนมากแค่ไหน อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า มีพอสมควร ยืนยันว่าเรื่องทุกอย่าง ดีเอสไอทำตรงไปตรงมา เชื่อว่าอีกไม่นานสังคมต้องรู้ความจริง

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าสามารถเปิดเผยรายชื่อให้ประชาชนรู้ได้หรือไม่ว่าข้าราชการ อดีตข้าราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้องมีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า เบื้องต้นเป็นหลัก 10 ราย ที่เป็นข้าราชการ และอดีตข้าราชการ รวมถึงข้าราชการการเมืองไม่ถึง 10 คน แต่เมื่อขยายไปถึงใครก็จะดำเนินการ ในขั้นนี้ขอสงวนรายชื่อไว้ก่อน เมื่อส่งสำนวนไป ป.ป.ช.ไม่อาจเปิดเผยได้หรือไม่

นอกจากนั้นยังมีกลุ่มทุน ขบวนการบริษัท ที่เข้ามาเกี่ยวข้องที่ต้องสาวต่อไป เนื่องจากข้าราชการไม่ได้เอามาเพื่อขายเอง แต่มีการสั่งในล็อตที่นำเข้ามาผิดกฎหมาย ทั้งนี้ การดำเนินการกับองค์การอาชญากรรมขนาดใหญ่ ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างดี ที่ส่งข้อมูลมาถึง และหากใครมีข้อมูลเพิ่มเติมขอให้แจ้งเข้ามาที่ดีเอสไอจะดำเนินการตรวจสอบให้เป็นไปตามนโยบายที่ รมว.ยุติธรรมสั่งการ และคาดว่าภายในต้นปี 2567 จะชัดเจนมากขึ้น