อธิบดีดีเอสไอเตรียมออกหนังสือนัด”สมเด็จช่วงฯ” สอบปากคำมีชื่อครอบครองรถ

เมื่อวันที่ 18 ก.พ. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ภายหลังจากการสืบสวนพบว่ารถยนต์คันมีเป็นรถยรนต์ที่นำเข้าผิดกฎหมาย นั้น หลังจากนี้ดีเอสไอ จะประชุมคณะพนักงานสอบสวน เพื่อกำหนดนัดหมายการเข้าปากคำ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่วัด ตามขั้นตอนเนื่องจาก สมเด็จช่วงปรากฎลายมือชื่อ ในการเป็นผู้ครอบครองรถยนต์คันดังกล่าว ส่วนวันเวลาในการนัดหมายต้องดูความเหมาะสมอีกครั้ง ทั้งนี้ต้องสอบถามสมเด็จช่วง เรื่องเจตนาในการครอบครอง ว่าหรือไม่อย่างไร ว่ารถดังกล่าวมีที่มา อย่างไร ส่วนของกลางรถยนต์คันดังกล่าวนั้นจะต้องถูกยึดหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุว่า ต้องรอสอบปากคำสมเด็จช่วงฯ ว่าจะให้การอย่างไร

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ดีเอสไอดำเนินคดีนี้ตามข้อเท็จจจริงและพยานหลักฐานที่ปรากฎ ไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งหรือเอนเอียงทางใดว่ากันไปตามพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ที่ดีเอสไอ ต้องดำเนินคดีลักษณะเดียวกับรถยนต์ของสมเด็ยช่วงฯ อีกกลายพัน คัน ซึ่งดีเอสไอรอทางกรมศุลากรประเมินภาษีตามกฎหมาย

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรถยนต์คันดังกล่าวมมีการสำแดงราคานำเข้า 1,665 เหรียญสหรัฐ หรือ 51,399.72 บาท ราคาอากรขาเข้า 41,119.78 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 6,476.37 บาท ภาษีสรรพาสามิต 228,000.00 บาท ภาษีมหาดไทย 22,800.00 บาท รวมมูลค่าภาษีทั้ งสิ้น 298,396.15 บาท ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ ราคาประมูลในตลาดรถเก่าสะสม สรอ. จะพบว่ารถรุ่นเดียวกันจะพบว่า ราคาเฉลี่ย 60,000 – 80,000 เหรียญสหรัฐ หรือราคา 1,852,242.00 บาท ดังนั้น เมื่อนำมา คิดอัตราภาษีศุลกากรนำเข้าที่ต้องสำแดง 1,481,793.60 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 233,382.49 บาท ภาษีสรรพสามิต 1,667,017.25 บาท ภาษีมหาดไทย 166,701.73 บาท รวม ภาษี ทั้งหมด 3,548,895.07 บาท ซึ่งทำให้รถยนต์คันดังกล่าวมีภาษีส่วนต่างที่ต้องจัดเก็บได้ 3,250,498.92 บาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image