สะเทือนใจ’ลูกหมอ’ พ่อตายเพราะช่วยคนไข้ ตัวเองเป็นลมชัก ย่าวัย80ขายขนมเลี้ยงดู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีการเผยแพร่จดหมายเวียนจาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ปราจีนบุรี ในโซเชียลมีเดีย โดยมีบุคคลเข้ามาแสดงความเสียใจ และเห็นใจต่อกรณีดังกล่าวกันจำนวนมาก เนื้อหาใจความจดหมายได้ขอความอนุเคราะห์ครอบครัวของ นพ.กฤษดา วงศ์ดีเลิศ อดีตแพทย์ ซึ่งเสียชีวิต จากการติดเชื้อในกระแสเลือดจากการทำงาน ทำให้มารดาที่ปัจจุบันอายุ 80 ปี และบุตรสาว ที่ป่วยเป็นโรคลมชัก ซึ่งจบชั้น ม.3 แล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ศึกษาต่อ มีรายได้จากการทำขนมขายหน้าโรงเรียนและเบี้ยผู้สูงอายุเท่านั้น จึงได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์จากผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเพื่อเป็นทุนทรัพย์ให้ครอบครัวดังกล่าว ที่บัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาประจันตคาม ชื่อบัญชี กองทุนสวัสดิการ เพื่อด.ญ.อารดา วงศ์ดีเลิศ เลขที่บัญชี 020067477915

หลังจากนพ.กฤษดา วงศ์ดีเลิศ ได้เสียชีวิตตั้งแต่ปี 2545 ทำให้ลูกและมารดา อยู่ต่อมาด้วยความลำบาก โดย ด.ญ.อารดา วงศ์ดีเลิศ บุตรสาว ได้เขียนเรียงความเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และได้รับรางวัลในการประกวดเรียงความ ทาง สสจ.ปราจีนบุรี ทราบเรื่องดังกล่าวจึงเร่งให้ความช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเพจเฟซบุ๊ก “คุณครูน๊อต” ได้โพสต์เรื่องลูกกำพร้า ซึ่งเป็นเรียงความของ ด.ญ.อารดา วงศ์ดีเลิศ ความว่า ” ขณะนี้หนูกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 หนูอยากเล่าชีวิตของหนูให้ทุกท่าน และเพื่อนทุกคนได้รับรู้ว่าชีวิตที่ขาดทั้งพ่อและแม่เป็นอย่างไร แต่ยังโชคดีที่หนูมีคุณย่าเลี้ยงหนูมาแทนคุณพ่อและคุณแม่ได้อย่างดีที่สุด คุณพ่อของหนูชื่อ นพ.กฤษดา วงษ์ดีเลิศ เรียนจบจากคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้ารับราชการทำงานมาหลายจังหวัด ครั้งล่าสุดย้ายมาเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ จ.ปราจีนบุรี ในปี พ.ศ. 2544

ส่วนแม่ของหนูชื่อ คุณแม่อารมณ์ วงษ์ดีเลิศ มีกิจการเปิดร้านเสริมสวยอยู่ที่กรุงเทพฯ หนูเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว คุณพ่อและคุณแม่ของหนูก็เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว เมื่อทุกท่านฟังแล้วชีวิตของหนูน่าจะสมบูรณ์พร้อม แต่ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน คุณย่าเล่าให้หนูฟังว่าหนูกับญาติของแม่เดินทางไปทำธุระที่ต่างจังหวัด รถเกิดอุบัติเหตุ ทุกคนในรถเสียชีวิตพร้อมกันหมด เหลือเพียงหนูซึ่งมีอายุได้เพียง 5 เดือน รอดชีวิต หนูยังมีความโชคดีอยู่บ้าง ที่คุณพ่อไม่ได้เดินทางไปด้วย คุณพ่อของหนูเป็นแพทย์ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต เคารพในจรรยาบรรณแพทย์อย่างเคร่งครัด มีจิตใจดี หลายครั้งที่รักษาคนไข้ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

Advertisement

คุณพ่อกับคุณย่าเลี้ยงหนูมาด้วยความรักและความเมตตา ไม่ทำให้หนูรู้สึกว่าขาดแม่ แต่ชะตาฟ้าลิขิตเล่นตลกกับครอบครัวหนู เมื่อหนูอายุได้ประมาณ 2 ขวบ คุณย่าเล่าว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับครอบครัวของหนูอีก วันหนึ่งคุณพ่อรักษาคนไข้ที่มีอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต ด้วยความเป็นห่วงคนไข้ ขณะที่พ่อกำลังปั๊มหัวใจให้คนไข้ คุณพ่อไม่ได้ใส่ผ้าปิดปาก

ปรากฏว่าคนไข้ได้อาเจียนใส่คุณพ่อทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ทางปาก คุณพ่อไม่ได้คำนึงความปลอดภัยของตนเอง จึงไม่ได้ทานยาเพื่อป้องกัน ต่อมาไม่นานคุณพ่อก็เริ่มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายแล้วลามไปที่สมองอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดก็เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 30 กว่าปี เท่านั้น ซึ่งขณะนั้นหนูเองก็ยังจำหน้าพ่อไม่ได้ เพราะหนูก็มีอายุเพียง 2 ขวบ เท่านั้น หนูไม่เข้าใจว่าครอบครัวของหนูทำเวรกรรมอะไรไว้ ถึงต้องประสบชะตากรรมเช่นนี้

ปัจจุบันนี้หนูมีเพียงคุณย่าที่มีอายุถึง 75 ปี ส่งเสียเลี้ยงดูให้หนูได้เรียนหนังสือ โดยมีอาชีพขายขนมเล็กๆ น้อยๆ เพื่อประทังให้สองชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ หนูสงสารคุณย่ามาก สิ่งที่หนูทำได้ดีที่สุดในเวลานี้คือ ตั้งใจเรียนหนังสือ เป็นเด็กดี ช่วยเหลือคุณย่าทุกอย่างเท่าที่เด็กอายุขนาดหนูพึงจะทำได้ ขณะนี้หนูอาศัยอยู่ที่บ้านของคนอื่นที่เขาให้ความเมตตา โดยที่ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกันเลย ทุกเย็นหนูกับย่าจะมาช่วยกันขายขนมบนทางเท้า ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนทุกวัน ต้องพยายามขายให้หมดไม่หมดก็ขาดทุน เพราะครอบครัวของหนูมีเงินน้อยมากแค่หมุนขายของไปวัน ๆ เท่านั้น

Advertisement

หลายครั้งมีผู้ใจบุญมาช่วยซื้อขนมจนหมด ทุกวันนี้หนูได้รับความเมตตาจากโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใหม่ท่าพาณิชย์) แห่งนี้เป็นอย่างมาก ครูทุกคนให้ความเอ็นดู หนูได้รับทุนการศึกษา ได้รับประทานอาหารกลางวันฟรี รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ โรงเรียนจ่ายให้หนูหมด แต่หนูไม่รู้ว่าเมื่อหนูจบการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้แล้วชีวิตหนูจะเป็นอย่างไรต่อไป หนูคิดแต่เพียงว่าการศึกษาและความรู้เท่านั้นที่หนูจะสามารถนำไปแลกกับการทำงานในอนาคตได้

ท่านทั้งหลาย และเพื่อนๆ ที่อยู่ในที่ประชุมแห่งนี้ หลายคนมีครอบครัวที่อบอุ่นและมีความพร้อมในการเรียน หนูอยากจะบอกทุกคนว่า เมื่อมีโอกาสแล้ว ขอให้ตั้งใจเรียนหนังสือ และรักคุณพ่อ คุณแม่ให้มาก ๆ อย่าให้เหมือนกับหนูที่ไม่มีคุณพ่อคุณแม่ให้รัก แต่หนูมีคุณย่าที่ประเสริฐที่สุด ที่ไม่เคยทอดทิ้งหนูเลย เราสองคน ทุกข์สุขมาด้วยกัน หนูสัญญาว่าหนูจะดูแลคุณย่าแทนคุณพ่อหนูอย่างดีที่สุดที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างหนูจะทำได้ ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่อดทนฟังประวัติชีวิตของหนู สวัสดีค่ะ ด.ญ.อารดา วงษ์ดีเลิศ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์จดหมายดังกล่าว และมีการแสดงความเห็นแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมเชิญชวนบริจาคด้วย

นพ.โชคชัย สาครพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ปราจีนบุรี กล่าวถึงการช่วยเหลือครอบครัวนพ.กฤษฎา ว่าทราบถึงความยากลำบากของครอบครัวดังกล่าว ผ่าน นพ.โชคชัย มานะดี ผอ.รพ.กบินทร์บุรี และ นพ.พงศธร สร้อยคีรี ผอ.รพ.ประจันตคาม ซึ่ง นพ.พงศธร ถือเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ นพ.กฤษฎา คือ แพทยศาสตรบัณฑิต รุ่น 42 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการช่วยเหลือได้ตัดสินใจนำเรื่องเข้าที่ประชุมจังหวัด เพื่อดำเนินการช่วยเหลือ โดยตั้งบัญชี กองทุนสวัสดิการ เพื่อ น.ส.อารดา วงศ์ดีเลิศ ขึ้น และส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์ออกไปยังเครือข่ายด้านสาธารณสุข เพื่อให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นมีเงินในกองทุนแล้วประมาณ 155,000 บาท ส่วนการรักษาโรคลมชักของ น.ส.อารดานั้น อยู่ในความดูแลของ รพ.กบินทร์บุรี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพราะอยู่ในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ส่วนความช่วยเหลือในฐานะเป็นข้าราชการนั้น เนื่องจาก นพ.กฤษฎา ได้ลาออกจาก รพ.กบินทร์บุรี ไปอยู่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง จึงไม่ได้มีสิทธิของข้าราชการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image