แห่เยี่ยม”ตร.เตะระเบิด”ครบรอบ2 ปี เจ้าตัวขอบคุณยังไม่ลืม-เสนอวิจัยอุปกรณ์กันม็อบ

วันนี้ (18 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านกาแฟ “เจ แอนด์ จูน เครปแอนด์คาเฟ่”ซึ่งเป็นร้านของ ร.ต.ท.ธีระเดช เล็กภู่ รองสารวัตรจราจร สภ.แสนสุข ที่รู้จักกันในนาม “ตำรวจเตะระเบิด”-“วีรบุรุษไซด์คิก” จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง บริเวณสะพานผ่านฟ้า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 มีการนัดรวมตัวเพื่อมาให้กำลังใจ ในโอกาสครบรอบสองปีเหตุุการณ์ดังกล่าว อาทิ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายเอกชัย ไชยนุวัติ นักวิชาการด้านกฎหมายมหาชน เพื่อนตำรวจที่ประสบเหตุร่วมกัน รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้เดินทางมาเยี่ยมและพูดคุยกับ ร.ต.ท.ธีระเดช ตลอดทั้งวัน ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น

โดย ร.ต.ท.ธีระเดช กล่าวว่า ในโอกาสครบสองปีรู้สึกว่าเร็วมาก ก็ยังคงมีความรู้สึกทั้งเสียใจและดีใจปะปนกันไป เพราะครั้งหนึ่งเราก็เคยเกือบเสียชีวิตจากการทำหน้าที่ และเราเสียเพื่อนบางคนไป แต่ในด้านดีก็คือเราได้เพื่อนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก หลายคนมีความตั้งใจมาหาเพราะรู้ข่าว ก็ถือเป็นกำลังใจที่ทำให้ผ่านจุดที่ท้อแท้มาได้ รวมถึงการศึกษามาเยอะ ก็ทำให้เราสามารถปล่อยวางได้เยอะ

ส่วนอาการบาดเจ็บ ร.ต.ท.ธีระเดช ระบุว่า ในปัจจุบันถือว่าดีขึ้นมา แต่ยังคงมีอาการเจ็บปวดเล็กน้อยหากเคลื่อนไหวมาก หรือลงน้ำหนักที่เท้าเยอะ หากกินระไรผิดสำแดงก็ยังมีน้ำเหลืองซึมออกมาอยู่ ซึ่งแพทย์ระบุว่าในส่วนกระดูกดีขึ้นแล้ว แต่กล้ามเนื้อยังต้องเข้ารับการรักษา คาดว่าจะใช้เวลาอีกหนึ่งปีจึงจะเริ่มเป็นปกติ ทุกวันนี้ทุกสองเดือนก็ยังคงต้องไปพบแพทย์อยู่

โดยในส่วนงานทางผู้บังคับบัญชาก็ช่วยเหลือ โดยย้ายมาอยู่ในส่วนงานด้านการเปรียบเทียบปรับ ก็เป็นงานนั่งโต๊ะทำให้ไม่ลำบากมาก หากย้อนกลับไปวันเกิดเหตุ ก็ยืนยันว่าจะเตะระเบิด ไม่คิดเปลี่ยนใจ แต่จะตัดสินใจให้เร็วกว่านี้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าบทเรียนสำคัญของความขัดแย้งในบ้านเมือง ส่วนตัวเห็นว่า การเจรจาคือสิ่งสำคัญที่สุด ความขัดแย้งใดๆไม่สามารถแก้ได้ด้วยการใช้ความรุนแรงอย่างเดียว ขณะที่การชุมนุมเองก็ควรมีมาตรฐานแบบสังคมประชาธิปไตยสากล เชื่อว่าในอนาคตน่าจะทำให้สังคมอยู่ร่วมกันได้ราบลื่นขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็น่าจะมีการสนับอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนที่ทันสมัยและมีปริมาณที่เพียงพอมากขึ้น รวมถึงหากเป็นไปได้ก็ควรเพิ่มการวิจัยอุปกรณ์เหล่านี้ให้พัฒนามากยิ่งขึ้น

Advertisement

51

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image