น้ำทะเลหนุนสูง ‘วันมาฆบูชา’ ประปาเร่งรับมือ มั่นใจแก้สถานการณ์ได้

นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) แถลงถึงการเตรียมมาตรการรับมือสถานการณ์ภัยแล้งในปี 2559 และการรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันประหยัดการใช้น้ำประปาเพื่อสู้วิกฤตภัยแล้งว่า กปน.รับน้ำดิบมาผลิตน้ำประปา 2 แห่งคือจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งจากแม่กลองที่รับน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ ในปีนี้มีปริมาณใกล้เคียงกับปี 2558 คาดว่าไม่มีปัญหากระทบต่อการผลิตน้ำประปา เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำเพียงพอ แต่ที่มีความเสี่ยงคือจากแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากปริมาณน้ำจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งในปีนี้มีปริมาณน้ำรวมกัน 3,100 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) น้อยกว่าปี 2558 เกือบ 2,000 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันกรมชลประทานผันน้ำลงมาวันละ 18-19 ล้าน ลบ.ม. โดยยืนยันว่ามีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค แต่ต้องช่วยกันประหยัด ส่วน กปน.สูบน้ำจากแหล่งน้ำต่างๆ เพื่อผลิตน้ำประปาวันละ 5.3 ล้าน ลบ.ม.

นายธนศักดิ์แถลงอีกว่า กปน.มีจุดเฝ้าระวังปัญหาน้ำเค็มที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำไหลผ่านวันละประมาณ 90 ลบ.ม.ต่อวินาที โดย กปน.สูบมาใช้เพื่อการผลิตน้ำประปา 50 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งยังมีปริมาณเพียงพอต่อการไล่น้ำเค็ม อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันมาฆบูชาต้องเฝ้าระวังน้ำเค็มจากสถานการณ์น้ำขึ้น-น้ำลง เนื่องจากเป็นข้างขึ้นข้างแรม แต่ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า กปน.สามารถบริหารจัดการได้ ไม่กระทบต่อการอุปโภคบริโภคของประชาชน 

ช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำเค็ม กปน.จะหยุดการสูบน้ำดิบจากแม่น้ำเจ้าพระะยา เพื่อไม่ให้กระทบต่อการผลิตน้ำ โดยได้เพิ่มการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำจากแม่น้ำแม่กลองและคลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งขณะนี้ก็ได้ลดการผลิตน้ำประปาจากแม่น้ำเจ้าพระยาร้อยละ 10 หรือจาก 4.5 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เป็น 4.1 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน พร้อมเพิ่มการผลิตน้ำจากฝั่งแม่น้ำแม่กลองเป็น 1.7 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน จากเดิมประมาณ 1.6 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และจากคลองมหาสวัสดิ์ เพิ่มจาก 1.6 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เป็น 2.4 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และในขณะนี้ก็ได้ลดการจ่ายน้ำในช่วงเวลา 23.00 – 05.00 น. และช่วงกลางวันเป็นบางเวลา เพื่อประหยัดน้ำดิบในการผลิต ซึ่งการลดการจ่ายน้ำจะพิจารณาตามช่วงเวลาไม่ให้กระทบต่อการใช้น้ำของประชาชน นอกจากนี้ กปน.ยังมีโครงการลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายน้ำและวางท่อประปาขนาดต่างๆ เพิ่มเติม ในปี 2559-2565 ใช้งบประมาณกว่า 44,000 ล้านบาท โดยยืนยันว่าจะไม่กระทบกับค่าน้ำของประชาชน” นายธนศักดิ์กล่าว

ผู้ว่าการ กปน.แถลงอีกว่า ในปี 2558 กปน.ได้เชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันประหยัดน้ำผ่านโครงการช่วยราษฎร์ ช่วยรัฐ ช่วยประหยัดน้ำประปา ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีจากประชาชน มีผู้ให้ความร่วมมือประหยัดน้ำตามเกณฑ์เป็นจำนวนถึง 428,819 ราย และปริมาณน้ำที่ใช้ลดลงเกือบ 9,000 ล้านลิตร ดังนั้น ในปี 2559 จึงได้สานต่อโครงการดังกล่าว เพื่อเชิญชวนประชาชนในกรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี และ จ.สมุทรปราการ ร่วมกันประหยัดน้ำ โดยได้ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อเป็นรางวัลให้กับผู้ใช้น้ำลดลงได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 และไม่ต่ำกว่า 5 ลบ.ม. ในช่วงการอ่านน้ำเดือนเมษายน เปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม 2559 เป็นช่วงที่มีการใช้น้ำสูงสุดของปี ซึ่งจะได้รับรางวัลเป็นค่าน้ำเฉพาะเดือนมิถุนายน มูลค่าไม่เกิน 100 บาท สำหรับมาตรไม่เกิน 1 นิ้ว และ 200 บาท สำหรับมาตร 1 นิ้วครึ่งขึ้นไป คาดว่าจะสามารถลดปริมาณการใช้น้ำได้ถึง 4,000 ล้านลิตร โดยผู้ใช้น้ำสามารถดูสถิติการใช้น้ำย้อนหลังได้ด้วยตัวเอง ผ่านแอพพลิเคชั่น MWA omMobile หรือ MWA e-Sevice หรือ ติดต่อสำนักงานการประปาสาขาใกล้บ้าน

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image