บช.น.ล่อซื้อยาดูดโปร หลังโจ๋เสพอาละวาดก่ออาชญากรรมอื้อ เตือนร้านยามีโทษ’จำคุก-ปรับ’

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รรท.ผบช.น.) พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รองผบช.น แถลงว่าได้ระดมล่อซื้อยาอันตราย ตัวยากลุ่มแอนติฮีสตามีน ซึ่งที่ผ่านมามีกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุอุกฉกรรจ์หลายพื้นที่ใน บช.น. เช่น ตำรวจสน.โชคชัย จับกุม แก๊งอั้ม เสือใหญ่ ก่อเหตุปล้นทรัพย์มากว่า 7 ครั้ง โดยใช้มีดอีโต้ฟันผู้เสียหาย และก่อเหตุปล้นทรัพย์สองพ่อลูก บริเวณซอยศรีนครินทร์11 ผู้เสียหายเป็นพนักงานบริษัทไทยออแกไนซ์ ถูกแทงด้วยของมีคม ที่แขนทั้งสองข้าง และเหตุปล้นทรัพย์ หน้าตึกชินวัตร 2 ผู้เสียหายเป็นพนักงานเอสแอนด์พี สาขาตึกชินวัตร ทาวเวอร์ 2 ถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธมีดปล้นทรัพย์ ขณะกำลังนั่งเล่นไอแพด สอบสวนผู้ต้องหาแต่ละคดี ส่วนใหญ่รับสารภาพว่าก่อนลงมือก่อเหตุเสพยาทามาดอล โปรโคดิล ตัวยากลุ่มแอนติฮีสตามีน เมื่อเสพเข้าไปแล้วจะมีอาการมึนเมา ทำให้ครองสติไม่ได้ หรือที่เรียกติดปากสั้นๆ ว่า”ดูดโปร” ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นนิยมเสพเป็นจำนวนมาก

พล.ต.ต.จารุวัฒน์กล่าวว่า ยาดังกล่าวเป็นยาในกลุ่มของแอนติฮีสตามีน ผสมทามาดอล ผสมน้ำอัดลม และใส่น้ำแข็ง เมื่อดื่มเข้าไปจะมึนเมา คึกคะนอง เพราะว่าเหตุหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุลักทรัพย์ วิ่งราว ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ซึ่งครั้งนี้เจ้าหน้าที่ระดม 3 วัน จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 62 ราย 62 ร้านขายยา จึงอยากขอเตือนร้านขายยาทุกร้าน อย่าเห็นแก่กำไรเล็กน้อย จะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น เพราะคนที่ซื้อไปกินก็จะไปก่อเหตุอาชญากรรม เหมือนที่ รรท.ผบช.น.พูดไว้ว่ายาพวกนี้ตรวจไม่พบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะต้องเน้นไปจับกุมร้านจำหน่าย เพราะเริ่มจะมีการจำหน่ายกันเอง

ส่วนข้อหาที่ดำเนินคดีทั้งหมดคือ 1.มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (อัลปราโซแลม) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย จำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท 2.ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท 3.ขายยาชุด จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท 4.ร่วมกันขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท 5.ขายยาปัจจุบันนอกเวลาทำการ ปรับ 2,000-10,000 บาท 6.ไม่จัดทำบัญชียาที่ซื้อและขายตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ปรับ 2,000-10,000 บาท และ 6.ขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ ปรับ 1,000-5,000 บาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image