เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 23 มกราคม ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มูลนิธิพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนาร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและภาคีเครือข่ายความร่วมมือสร้างคนดีให้มีคุณธรรมโดยธรรมะเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จัดเสวนา “สร้างคนดีให้มีคุณธรรม ตามคำสอนพ่อ”
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ปาฐกถาหัวข้อ “หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ว่าเรื่องคุณธรรม ความดี การทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ ต้องทำให้เป็นหนึ่งแยกจากกันไม่ออก ปี2524ผมได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลให้ถวายงานพระเจ้าอยู่หัว ผมวิตกกังวลมาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกฯในขณะนั้นบอกว่างานปราบผู้ก่อการร้ายในป่าสมัยนั้นเสร็จแล้ว ผมกราบบังคมทูลตามตรงว่ามีความวิตกมาก ผมเข้าถวายงานโดยไม่มีความรู้ ผมเรียนจบรัฐศาสตร์การทูต สิ่งที่พระองค์ทำนั้นผมไม่รู้เลยทั้งการบริหารน้ำบริหารดินฟื้นฟูทุกอย่าง ทรัพยากรทุกอย่างเท่าเดิมแต่มนุษย์เพิ่มขึ้นทุกวัน มนุษย์เกิดมาเพื่อทำลายทุกอย่าง พระองค์ท่านรับสั่งผมมว่าเราชอบรังแกธรรมชาติแล้ววันหนึ่งธรรมชาติโกรธจะลงโทษเรา วันนี้ก็ถูกลงโทษทั้งโลก พระองค์ท่านรับสั่งว่าไม่รู้ไม่เป็นไร ฉันสอนเอง ทุกครั้งที่ตามเสด็จฯจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆไปด้วย มีแต่ผมที่ไม่รู้ ท่านจะสอนผมทุกอย่าง สอนให้รู้จักแผ่นดิน
“หลัง13ต.ค.มีแต่คนถามว่าแล้วงานท่านล่ะ แต่พระองค์ท่านเตรียมการไว้หมดแล้ว วันที่ 13 ต.ค.ผมกลับจากสุราษฎร์ธานี จิตใจกระวนกระวาย เรารู้ทั้งรู้ว่าสิ่งนี้ต้องมาถึงแต่ไม่อยากให้เป็นวันนั้น หลังจากนั้น 4-5 วัน ผมทำอะไรไม่ได้ จะให้เข้มแข็งอย่างไร ผมอยู่กับพระองค์ท่านมา 35 ปี คำสอนของพระองค์ท่านยังก้องอยู่ในหัว มโนภาพที่ตามเสด็จภูเขาลูกแล้วลูกเล่ายังจำได้ดี ท่านทรงทำเพื่อรักษาปัจจัยแห่งชีวิตเรา คือ ดินน้ำลมไฟ
“ผมจบจากฝรั่งเศส ตรีโทเอก เขาปลูกฝังเรื่องประชาธิปไตย แต่ไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบที่พูดกันทุกวันนี้ อันนี้เรียกอนาธิปไตย เลอะเทอะ อิรักอัฟกานิสถานอ้างประชาธิปไตยทำสงครามแย่งชิงกันแล้วสุดท้ายเป็นยังไง ฝรั่งบอกว่าทศวรรษหน้าจะมีสงครามแย่งน้ำมัน สงครามแย่งน้ำ เพราะเวลานี้ทรัพยากรน้อยกว่าจำนวนมนุษย์ ประเทศไทยมีอาหารเหลือกินเหลือใช้แต่ไม่เคยสนใจ แล้วไทยลุกขึ้นมาอยากเป็นเสือตัวที่5 สัญลักษณ์อุตสาหกรรม รวยเร็วเจ๊งเร็ว แล้วปี2540เสือนอนตายหยังเขียด เวลานี้อาหารเป็นที่ต้องการของผู้คน มหาเศรษฐีรวยจากอาหาร
“ผมถวายงานมา 35 ปี ผมยังเรียนไม่จบ แต่ครูหยุดสอนไปเสียก่อน พ่อไม่อยู่พะยุงเราแล้วเราต้องยืนด้วยขาตัวเอง พระองค์ท่านติดอุปกรณ์ความคิดให้ขาเราเดินไปข้างหน้าแล้ว อยู่ที่เราจะร่วมมือกัน เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนาอย่างยั่งยืนไหม คำที่พ่อหวังให้ลูกๆเดินไปถึงคือคำว่า ประโยชน์สุข ไม่เกี่ยวว่าคุณจะมีเงินเท่าไหร่แต่อยู่ที่ว่าคุณสร้างประโยชน์สุขไหม ธรรมะที่พระองค์ท่านสอน คือ ต้องดีและถูกต้อง ไม่ใช่ว่าถูกต้องแต่เจตนาโกง ธรรมะอยู่เหนือกฎหมายอยู่เหนือความดี คือความธรรมดาสามัญ เราควรจะเริ่มเดี๋ยวนี้เวลานี้พร้อมกัน” ดร.สุเมธกล่าว
ต่อมา ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บรรยายหัวข้อ “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ว่า ถ้าเราจะทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต้องคำนึงถึงปัญหาหลัก คือปัญหาสังคม ความเหลื่อมล้ำและสิ่งแวดล้อม องค์กรต่างๆสามารถทำได้ ความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจหรือซีเอสอาร์ มีทั้งกิจกรรมที่ทำเพิ่มเติมจากกิจกรรมหลักและ ซีเอสอาร์ในกระบวนการทำงานหลักของกิจการคือคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีการตั้งธุรกิจเพื่อสังคมโดยเฉพาะ
“ปลายปีที่ผ่านมาบริษัทต่างๆใส่ใจเรื่องสังคมสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะกฎหมายที่มีข้อบังคับเข้มข้นขึ้น, การตระหนักถึงบทบาทของบุคคลหรือองค์กรณ์ต่อความยั่งยืนของโลก, ธุรกิจสามารถเพิ่มคุณค่าและป้องกันความเสี่ยงด้วยซีเอสอาร์ และสุดท้ายความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย คือผู้บริโภค คู่ค้า นักลงทุน พนักงาน ชุมชนและสังคม โดยซีเอสอาร์ในบริบทสังคมไทยสามารถทำได้โดยยึดหลักวิถีพุทธ หลักทศพิธราชธรรม และหลักเศรษฐกิจพอเพียง” ดร.ชัยวัฒน์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายในงานมีผู้ร่วมงานเต็มห้องประชุมโดยเฉพาะองค์การภาคีเครือข่ายความร่วมมือสร้างคนดีให้มีคุณธรรมโดยธรรมะเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมกว่า77องค์กร
