สตม.สั่งสอบ เอกสารลับมะกันเตือน”ไอเอส”จ้องป่วนไทยหลุด! ด้าน”รองผบ.ตร.”ยันไร้เหตุรุนแรง ออกมาตรการป้องกันวินาศกรรม

จากกรณี มีหนังสือคำสั่งที่ พล.ต.ต.ชาติชาย แตงเอี่ยม รอง ผบช.สตม. ลงนามในหนังสือคำสั่งเลขที่ 0029.322/467 ลงวันที่ 15 ก.พ.59 ถึง ผบช.สตม. ที่ปรึกษา (มค.) และรอง ผบช.สตม. มีใจความว่า เพื่อทราบและดำเนินการตามหนังสือ บช.ส.ลับด่วน 0028.(9)/32 ลง 3 ก.พ.59 ตามสั่งการ ผบ.ตร. ลงวันที่ 29 ม.ค.59 ท้ายนัยหนังสือ บช.ส.ลับ ที่ 0028.(ขว)/56 ลง 29 ม.ค.59 เนื่องด้วยได้รับการแจ้งเตือนจาก ที่ปรึกษาพิเศษ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย SPECIAL ASSISTANT (SA) ถึงความเป็นไปได้ในการก่อเหตุในประเทศไทยของกลุ่มก่อการร้ายเพื่อโจมตีแหล่งชุมชนสาธารณะ อาทิ ห้างสรรพสินค้า แหล่งท่องเที่ยว สถานบันเทิง รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) และรถไฟฟ้า (BTS) เนื่องจากแผนการขยายพื้นที่อิทธิพลของกลุ่มไอเอสที่แพร่อิทธิพลมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม.เปิดเผยว่า ตนกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ที่จ.นครพนม จึงไม่ทราบเรื่องหนังสือดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้กรณีหนังสือลับนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว อย่างไรก็ตามทาง สตม.จะดูแลความปลอดภัยตามแผนมาตรการที่วางไว้

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)กล่าวว่า ทางการข่าวยังไม่พบว่ามีกลุ่มไอเอสเข้ามาเคลื่อนไหวในประเทศไทย และไม่มีเหตุบ่งชี้ว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น จากสถานการณ์ความรุนแรงทั่วโลกทำให้ไทยป้องกันทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่และไม่ประมาท เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดหากพบความเคลื่อนต้องรีบแจ้ง รวมถึงฝากเตือนประชาชนหากพบความผิดปกติต้องแจ้งเจ้าหน้าที่

รองผบ.ตร. กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามได้ออกคำสั่งมาตรการป้องกันการก่อการร้ายและการก่อวินาศกรรม โดยแจ้งเตือนไปยังทุกหน่วยงานให้ร่วมป้องกัน สถานที่สำคัญ แหล่งท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า แหล่งคมนาคม สนามบินนอกจากนี้จัดกำลังฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวความเคลื่อนไหวบุคคล ที่เป็นเป้าหมายทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งตั้วจุดตรวจจุดสกัดตรวจค้นบุคคลและพาหนะตามสถานที่สำคัญ และแหล่งชุมชนส่วนในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อว่าทหารมีการคุมเข้มและมีการบังคับใช้กฎอัยการศึก เชื่อว่าจะไม่มีช่องโหว่ให้ผู้ก่อการร้ายแทรกซึมมาสร้างสถานการณ์