เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์ ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุมนายวรวุฒิ พรมชาติ อายุ 29 ปี ขาวจังหวัดศรีสะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธและอื่นๆ รวม 3 หมายจับ พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้นดัดแปลง 1 กระบอก ซองบรรจุกระสุนปืนพกสั้น 1 ซอง และเครื่องกระสุนปืน ขนาด .380 4 นัด
พล.ต.ต.ธีรเดชเปิดเผยว่า ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล กำหนดให้มีการจับกุมเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ที่สร้างความเสียหายแก่ประชาชนและสาธารณประโยชน์ รวมถึงความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ต่อมาสืบทราบว่า นายวรวุฒิ มีพฤติการณ์ตระเวนลักสายเคเบิลและสายไฟตามจุดที่ไม่ค่อยมีผู้คนอาศัยในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อนนำสายเคเบิลไปผูกกับท้ายรถกระบะขับลากไปให้สายเคเบิลหลุดออกมา เนื่องจากเพื่อนผู้ร่วมกระทำความผิดถูกจับกุมหมดแล้วเหลือตนที่ยังไม่ถูกจับจึงใช้รถกระบะเป็นเครื่องทุ่นแรง จากนั้นนำสายเคเบิลที่ได้นำไปเผาไฟหลายจุดในพื้นที่ กทม.ที่ไม่ซ้ำกันแล้วนำทองแดงไปทยอยขายให้กับซาเล้งรถรับซื้อของเก่า แต่จะไม่นำทองแดงทั้งหมดไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าเพราะว่าจะทำให้เป็นที่สงสัยรับรายได้จากการก่อเหตุครั้งละประมาณ 30,000-40,000 บาท โดยนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายในครอบครัว
พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การว่า 3 หมายจับที่ตามจับไม่ได้ เพราะเมื่อตอนเรียนหนังสืออยู่มัธยมศึกษาปีที่ 2 เคยเป็นนักกีฬาวิ่ง 4×100 ตัวโรงเรียนเมื่อเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสวมวิญญาณนักวิ่งลมกรดอดีตตัวแทนโรงเรียนหลายสมัยหนีจับกุมตามหมายจับได้หลายครั้งทำให้รอดพ้นจากการจับกุมมาตลอด ตรวจสอบพบนายวรวุฒิ เคยถูกจับในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 และ บช.น. ทั้งคดียาเสพติดและลักทรัพย์มาแล้วร่วม 11ครั้ง จากนั้นจึงนำตัวส่ง สน.บางซื่อ ดำเนินคดีต่อไป