2 หนุ่มร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจกองปราบ บุกค้นบ้านยัดยา บังคับหาเงินแสนไถ่ตัว

2 หนุ่มร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจกองปราบ บุกค้นบ้านยัดยา บังคับหาเงินแสนไถ่ตัว

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ สน.สายไหม นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย/ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พานายเล็ก อายุ 23 ปี และนายบาส อายุ 24 ปี ผู้เสียหายเข้าพบ พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับชายฉกรรจ์จำนวน 4 คน หลังอ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบปราม บุกเข้าค้นบ้านโดยไม่มีหมายค้น หลังค้นเสร็จไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย พาตัวผู้เสียหายขึ้นรถไปขับวน นำยาเสพติดขึ้นมาวางบนตัก บังคับให้ผู้เสียหายนำเงินมามอบให้ 100,000 บาท บังคับให้ผู้เสียหายติดต่อขอเงินจากญาติมาไถ่ตัว ผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง เห็นว่าผู้เสียหายไม่มีเงินให้ จึงค้นตัวผู้เสียหายเอาเงินไป 5,000 บาท ก่อนเอาผู้เสียหายไปปล่อยทิ้งที่ ถ.รามอินทรา 46 เหตุเกิดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 17.30 น.

นายเอกภพระบุว่า สำหรับเคสนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 5 โมงเย็น ในพื้นที่ สน.สายไหม มีชายฉกรรจ์ 4 คนอ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบปราม เข้าค้นบ้าน โดยระบุว่าเฝ้ามาจำนวน 3 เดือน ซึ่งผู้เสียหายระบุว่าจะมาเฝ้านาน 3 เดือนได้อย่างไรเนื่องจากเพิ่งมาเช่าบ้านหลังนี้ได้หนึ่งเดือนเท่านั้น

จากนั้นก็ค้นบ้านแต่กลับไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแล้วก่อนพา 1 ในผู้เสียหายขึ้นรถไปจากบ้านพักระหว่างซอยเพิ่มสิน 13 กับ 15 เข้าถนนวัชรพลก่อนจะไปจอดรถคุยบริเวณหน้าโรงเรียนไทยรัฐ มีการเจรจาถามว่าเก็บเอาไว้ไหนซึ่งผู้เสียหายสงสัยว่าเก็บอะไรก่อนจะหยิบยาเสพติดมาวางไว้บนตักแล้วบังคับให้ผู้เสียหายชี้และรับว่ายาเสพติดเป็นของตน จากนั้นได้ให้ผู้เสียหายหาเงินมา 100,000 บาท ด้วยความกลัวของผู้เสียหายจึงจำเป็นที่ต้องชี้ แต่ผู้เสียหายไม่ยอมพูดจึงใช้มือตบปากเพื่อให้พูด แต่ผู้เสียหายระบุว่าไม่มีเงินให้พาไปที่ สน.ได้ไหม จากนั้นทั้งหมดได้พาไปวนเข้าถนนวัชรพลระหว่างทางกลุ่มชายฉกรรจ์ให้ผู้เสียหายติดต่อญาติแล้วข่มขู่ว่าพาเข้ากองปราบบ้าง สน.บ้าง

ADVERTISMENT

เมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์คิดว่าไม่ได้เงินเลยค้นตัวพบเงิน 5,200 บาท และเอาเงินไป 5,000 บาท คืนผู้เสียหาย 200 ก่อนจะปล่อยตัวที่รามอินทรา 46 ประมาณ 2 ทุ่ม ผู้เสียหายเกรงว่าจะเกิดอันตรายแก่ตัวเองจึงมาร้องเพจสายไหมต้องรอด เบื้องต้นได้ประสานไปทาง พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจ สน.สายไหม เพื่อให้ช่วยติดตาม และตรวจสอบว่าชายฉกรรจ์ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบจริงหรือไม่

ซึ่งพฤติการณ์ของกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวถือว่าเป็นมิจฉาชีพ หรือนักบิน ที่มีการขับรถตระเวนหาเหยื่อ ชาวต่างด้าว หรือคนที่คิดว่ามีสิ่งผิดกฎหมาย แล้วรีดไถเงิน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทำให้ตำรวจเสื่อมเสียชื่อเสียงหากเป็นตำรวจจริง แต่ถ้าไม่ใช่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวต้องตามจับมาดำเนินคดีให้ได้

ADVERTISMENT

นายเล็ก อายุ 23 ปี เพื่อนผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุมีผู้ชาย 3 คนมายืนอยู่หน้าประตูใส่หมวกใส่แมสก์ ไม่มีบัตรหรืออะไรแสดงตัวว่าเป็นตำรวจ ก่อนจะผลักประตูเข้ามาพร้อมบอกว่าให้เข้าไปคุยกันข้างใน มีอะไรให้เข้าไปคุยกันซึ่งตนยังไม่ทราบว่าใช้กับทั้งหมดมาทำอะไร แต่ได้ยินเขาบอกว่าเฝ้าติดตามเพื่อนมานาน 3 เดือนแล้ว แต่เพื่อนเพิ่งมาเช่าบ้านยายตนเองได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น

นายบาส อายุ 24 ปี เล่าว่า ตอนนั้นมีคนเข้ามาแค่ 3 คน ก่อนจะมีชายเสื้อแดงที่เขาอ้างว่าเป็นตำรวจยศผู้กอง เข้ามาพูดคุยและขอค้น ซึ่งตนก็ให้ค้นเพราะตนไม่เคยไปทำอะไรผิด แต่เมื่อค้นเสร็จก็ไม่เจอสิ่งผิดกฎหมาย จากนั้นเขาให้ตนขึ้นรถจำได้ว่าเป็นรถเก๋งยาริส สีขาว ไม่ทราบทะเบียนไปโดยอ้างว่าจะพาไปสอบสวน ตนบริสุทธิ์ใจจึงยอมเดินขึ้นรถไป ซึ่งมีแค่ 3 คน ที่ขึ้นรถมาด้วย จากนั้นเขาพาขับรถวนแล้วจอดรถบังคับให้โทรหาญาติ และเอาของลักษณะเป็นเม็ดสีเหลือง และเกล็ด มาวางที่ตักซึ่งตนคิดว่าเป็นยาเสพติดแน่นอน แล้วเขาก็ถ่ายรูปบังคับให้ตนชี้ บังคับให้ยอมรับว่ายาเสพติดเป็นของตน แต่ตนไม่ยอมรับเขาจึงตบปากตนให้ยอมรับ เขาขู่ถ้าไม่รับ กูจะเอาตัวไปที่ สน. หากไม่อยากติดคุกให้หาเงินมา 1 แสน แต่ตนไม่มีให้จึงลดให้เหลือ 5 หมื่น 3 หมื่น 1 หมื่น ตอนนั้นเขามีการอัดคลิปไว้ด้วย แต่ตนไม่มีเงินเยอะขนาดนั้นเขาจึงค้นตัวเจอเงินในกระเป๋า 5,200 บาท เขาเอาไป 5,000 บาทแล้วให้ตนแอดไลน์ ก่อนจะคืนมาให้ตน 200 ค่ารถกลับบ้าน ให้หาเงินไปให้ แล้วเอามาปล่อยที่ซอยรามอินทรา 46 ซึ่งเขายังขู่อย่าคิดหนีถึงจะหนีก็สามารถตามได้ กระทั่งตี 1 เขาทักไลน์มาถามสรุปจะเอายังไงด้วยความกลัวจึงเข้าปรึกษากับพี่เอก สายไหมต้องรอด

ด้าน พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับการ สน.สายไหม เปิดเผยว่า จากการสอบถามผู้เสียหายทั้งสองคน และพฤติกรรมที่ใช้เส้นทางในการก่อเหตุตอนนี้รู้เบาะแสเส้นทางของผู้ก่อเหตุแล้ว ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งรัดไล่กล้องวงจรปิดคาดว่าจะสามารถติดตามตัวคนร้ายได้ในไม่ช้านี้ เพราะเชื่อว่าคนร้ายรู้จักเส้นทางที่ก่อเหตุเป็นอย่างดี ส่วนการตรวจสอบยังไม่พบว่าผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และหากเป็นตำรวจนายอื่นก่อนระหว่างการประสานเพื่อช่วยตรวจสอบว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจสังกัดตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ พฤติกรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุเค้ามีความผิดในหลายข้อหา หลังจากที่ได้ตัวมาแล้วจะมีการสอบสวนและดูพฤติกรรมว่ามีอะไรบ้างก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พาผู้เสียหายลงพื้นที่ชี้จุดบริเวณบ้านพักระหว่างซอยเพิ่มสิน 13 และ 15 อีกจุดอยู่บริเวณลานจอดรถ ใกล้โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 75 ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มชายฉกรรจ์ 3 คน พาผู้เสียหายมาจอดรถเพื่อชี้ของกลางและทำร้ายร่างกาย ก่อนจะพาขึ้นรถซึ่งระหว่างทางได้ค้นตัวนำเงินจำนวน 5 พันบาทไปก่อนจะปล่อยตัวที่รามอินทรา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image