บิ๊กโจ๊กเร่งประสานทางการพม่านำตัว 92 คนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานค้าประเวณีและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมืองเมียวดี กลับประเทศไทย ภายในสัปดาห์นี้
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวความคืบหน้ากรณีทางการจีนร่วมกับทางการเมียนมาออกปราบปรามชนกลุ่มน้อยจนทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์แหล่งใหญ่ที่สุดในเล้าก์ก่ายช่วยเหลือคนที่ถูกหลอกมาทำงานได้เป็นจำนวนมาก ว่าได้รับการประสานจากทางการเมียนมาว่าจะส่งคนไทยทั้ง 92 คนให้กับทางการไทยในสัปดาห์นี้ หลังจากที่บุกเข้าไปช่วยเหลือมาได้ทั้งหมดโดยคนไทยทั้งหมดมีสองส่วน ส่วนแรกคือกลุ่มคนที่ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ส่วนอีกกลุ่มเป็นกลุ่มที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีหรือการค้ามนุษย์ในพื้นที่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยอมรับว่า การกวาดล้างในเมืองเล้าก์ก่ายทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ย้ายฐานเข้ามาประชิดชายแดนไทยที่เมืองเมียวดี ซึ่งเรื่องดังกล่าวกำลังหารือกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของเมียนมาว่าจะมีการดำเนินการได้อย่างไรในการป้องปราม
อย่างไรก็ตามให้ความเชื่อมั่นว่าจนถึงขณะนี้ฐานการตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทยยังไม่มี การปราบปรามการค้ามนุษย์ในประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลต่อสถิติการปราบปรามในประเทศไทยและอาจกระทบต่อการจัดอันดับความน่าเชื่อถือเรื่องของการค้ามนุษย์
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ช่วงเดือนมีนาคมจะเดินทางไปที่สหรัฐอเมริการ่วมกับอธิบดีกรมอเมริกาเพื่อรายงานความคืบหน้าการปราบปรามการค้ามนุษย์หรือทิปออฟฟิศซึ่งเป็นผู้ประเมินความเชื่อมั่นด้านการค้ามนุษย์ของประเทศไทย โดยปัจจุบันอยู่ที่เทียร์สอง ซึ่งจะนำผลการปราบปรามทั้งหมดไปนำเสนอเพื่อขอให้ทิปรีพอร์ต พิจารณาการปรับโดยการยึดถือกลุ่มประเทศเป็นหลักเพราะการก่อเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านจะมาลดอันดับประเทศไทยประเทศเดียวคงเป็นไปไม่ได้