กทม. จัดงานตลาดนัดแก้หนี้ วัดโฝวกวงซัน 18 กพ.นี้ – ชัชชาติ สั่งโรงรับจำนำเก็บดอกต่ำ
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ห้องนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 4/2567 เปิดเผยภายหลังการประชุมเรื่องความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในกรุงเทพฯ ตามนโยบายของรัฐบาล
นายชัชชาติ กล่าวว่า กทม.มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งการรับลงทะเบียน และการดำเนินการเจรจาไกล่เกลี่ย นอกจากนี้ยังมอบหมายให้สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร (โรงรับจำนำ กทม.) เก็บดอกเบี้ยจำนำในอัตราที่ต่ำที่สุด ที่ เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.20 บาท , เงินต้น 5,001 – 15,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.80 บาท , เงินต้นเกิน 15,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 บาท (โดยจำกัดวงเงินจำนำไว้ไม่เกิน 100,000 บาท ต่อ 1 ราย / สถานธนานุบาล 1 แห่ง) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ
ด้าน นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 18 ก.พ.นี่ กทม.ร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะจัดงาน “มหกรรมตลาดนัดแก้หนี้กรุงเทพมหานคร” ที่อาคารเอนกประสงค์สถาบันพุทธศาสนาเถรวาท-มหายาน โฝวกวงซันไท่ฮวาซือ (วัดโฝวกวงซัน) เขตคลองสามวา ซึ่งถือว่าเป็นเขตที่มียอดการลงทะเบียนแก้หนี้มากที่สุด ภายในงานนอกจากการดำเนินการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบแล้ว ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ประชาชนได้เข้าร่วมอีกมากมาย อาทิ การสร้างงานสร้างอาชีพ การจัดตลาดแรงงาน การฝึกอาชีพ และกิจกรรมบริการประชาชน ได้แก่ บริการตรวจสุขภาพ ทันตกรรม ตัดผม ทำหมันสุนัข แมว ตัดแต่งขนสุนัข บริการน้ำดื่ม รถประกอบอาหาร จำหน่ายสินค้าราคาประหยัด ซึ่งประชาชนสามารถร่วมกิจกรรมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นายศานนท์ กล่าวว่า หลังจากวันที่ 29 ก.พ. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการลงทะเบียนนั้น กทม.จะยังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้ประชาชนต่อไป โดยเฉพาะในส่วนของโรงรับจำนำ กทม. ที่จะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเอาไว้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้ประชาชนต่อไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพรวมการรับลงทะบียนหนี้นอกระบบในพื้นที่กรุงเทพฯ จากข้อมูลของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 ก.พ. 67 พบว่ากรุงเทพฯ เป็นจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด ถึง 11,112 ราย เจ้าหนี้ 8,044 ราย มูลหนี้สะสมกว่า 857.566 ล้านบาท