ตั้งเวทีเบิ้ม กลางเพาะช่าง ‘ฉลองตรุษจีน’ อลังการ จัดเต็มโชว์สุดแรร์-ทำของเล่นในตำนาน

ตั้งเวทีเบิ้ม กลางเพาะช่าง ‘ฉลองตรุษจีน’ อลังการ จัดเต็มโชว์สุดแรร์-ทำของเล่นในตำนาน

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่วิทยาลัยเพาะช่าง เขตพระนคร กรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ บพิตรพิมุข จักรวรรดิ ร่วมกับ สภาวัฒนธรรมไทยจีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ และ SICHUAN OPERA TROUPE สาธารณรัฐประชาชนจีน จัดงานเทศกาลตรุษจีนระดับประเทศ “Chinese Spring Festival 2024 @RMUTR Poh Chang Academy of Arts” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการกิจกรรมทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน เทศกาลตรุษจีน พ.ศ.2567 ตั้งแต่เวลา 16.00-20.00 น.

โดยไฮไลต์คือการส่งตรงการแสดงอุปรากรจีน “เปลี่ยนหน้ากาก” ที่ภาษาจีนเรียกว่า “เปี้ยนเหลี่ยน” ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของมณฑลเสฉวน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ได้รับการบรรจุเป็นมรดกทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมระดับชาติชุดแรก มาให้รับชมอย่างใกล้ชิด ซึ่งตัวละครบนเวทีการแสดงเผยให้เห็นถึงการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ประกอบไปด้วยการแสดง 5 ชุด ได้แก่ การแสดง ‘มังกรเหิน เสือเผ่น’, อุปรากรจีนเสฉวน ตอน ‘การสกัดม้า’, การแสดงเดี่ยวพิณพิพา ตอน ‘ซุ่มโจมตีสิบทิศ’, การแสดงฉากน้ำ และอุปรากรจีน ’เปลี่ยนหน้ากาก‘ ซี่งล้วนติดอันดับมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

Advertisement

บรรยากาศเวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เปิดให้เข้าร่วมงาน มีนักศึกษา ประชาชน ผู้สนใจ บุคลากรทั้งภายในและภายนอกหลั่งไหลร่วมงานอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งภายในงานเต็มไปด้วยซุ้มกิจกรรมมากมาย อาทิ การวาดพัดจีน, การวาดหน้ากากจีน, การทำโคม, การปั๊มลายทอง, การถักเชือกมงคล, เขียนลายมือจีน (เหมาปี่), การปั้นบัวลอยน้ำขิง และการทำเกี๊ยว โดยมีนักศึกษาและคณาจารย์คอยให้ข้อมูล พร้อมแนะนำวิธีการอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการแสดงมากมาย ทั้งการแสดงกู่เจิงของนักศึกษาจากพื้นที่ มทร.รัตนโกสินทร์ บพิตรพิมุข จักรวรรดิ, การแสดง รำโขน ของนักศึกษาวิทยาลัยเพาะช่าง, การแสดงเชิดมังกร ชุดมังกรค่ายกลอวยพร โดยนักแสดงอยู่ระหว่างเตรียมอุปกรณ์และความพร้อม

Advertisement

รวมถึงการแสดงสุดพิเศษ “อุปรากรจีนเปลี่ยนหน้ากาก” โดย นายเฉิน จีหลิน ผู้อำนวยการเครือข่ายศิลปะและวรรณกรรมแห่งมณฑลเสฉวน และผู้อำนวยการการหออุปรากรจีน แห่งมณฑลเสฉวน พร้อมคณะนักแสดง ในช่วงเวลา 19.00 น. โดยได้รับเกียรติจากนายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ เป็นประธานเปิดงาน

สำหรับการจัดงานในวันนี้ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากวิทยาลัยผู้ประกอบการสร้างสรรค์นานาชาติรัตนโกสินทร์ (RICE), สภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์, SICHUAN OPERA TROUPE, สาธารณรัฐประชาชนจีน, มทร.รัตนโกสินทร์ บพิตรพิมุข จักรวรรดิ และวิทยาลัยเพาะช่าง โดยเปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถนำไปจอดได้ที่วัดราชบุรณราชวรวิหาร, รถบัส ที่สนามหลวง โดยนำไปจอดได้ก่อนเวลา 17.00 น.

น.ส.ณัฐธยาน์ ท้าววิบูลย์ นักศึกษาปีที่ 1 คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาจีน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ บพิตรพิมุข จักรวรรดิ กล่าวว่า ของเล่นมังกรคู่ป๋องแป๋งเป็นของเล่นที่คู่เทศกาลตรุษจีน มีขายที่เยาวราชชุดละ 100-150 บาท

“ราคาค่อนข้างแรงอยู่ ส่วนมากจึงนิยมทำกันเล่นในครอบครัว”

น.ส.ณัฐธยาน์เปิดเผยถึงการจัดงานว่า เป็นครั้งแรกที่มีความร่วมมือกันจากหลายหน่วยงาน และเป็นครั้งแรกที่ตนได้มาร่วมออกบูธ มองว่าเป็นเรื่องที่ดีมากในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมของไทย-จีน รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในวันนี้

ด้าน น.ส.วิลาสินี ทัดธสอย นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาจีน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ บพิตรพิมุข จักรวรรดิ เผยว่า ส่วนตัวเป็นนักศึกษาภาษาจีนปี 1 ซึ่งวันนี้เป็นกิจกรรมในคณะ ที่เราตั้งใจช่วยกันทำ

“ของเล่นที่นำมาเผยแพร่ในวันนี้เป็นของเล่นที่ค่อนข้างหายาก และทำยากพอสมควร ต้องใช้เวลาศึกษาในการทำพอสมควร

มันคือตัวมังกร เป็นของเล่นของคนจีนในสมัยก่อนที่นิยมมาก เป็นของเล่นมงคลฟีลๆ นั้น

ส่วนป๋องแป๋ง คนจีนจะเชื่อเรื่อง ‘เหนียน’ ที่คล้ายๆ ตัวกิเลน ว่าคือสัตว์ประหลาด เป็นสัตว์ดุร้าย ก็จะเอาป๋องแป๋งไปไล่เหนียน เพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีในความเชื่อของคนจีน เวลาเล่นเขาก็จะเขย่าให้เกิดเสียงป๋องแป๋งๆ ไล่สิ่งที่ไม่ดีออกไป” น.ส.วิลาสินี

มองการจัดงานในลักษณะนี้จะช่วยกระตุ้นความสัมพันธ์ไทย-จีน หรือสื่อสารอะไรทางด้านวัฒนธรรมออกไปได้บ้าง?

น.ส.วิลาสินีกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะของเล่นแบบนี้หาทำได้ค่อนข้างยาก ส่วนมากมีเฉพาะแค่ช่วงเทศกาลตรุษจีน

“เป็นเรื่องดีมากที่ได้มาเผยแพร่ออกไปแบบนี้ คนจะได้รู้จักมากขึ้นด้วย อย่างวันนี้ก็มีทั้งคนไทย คนจีน อาม่า อากงมาทำ ซึ่งก็น่าจะคุ้นเคยกับของเล่นนี้ตั้งแต่เด็ก เหมือนได้ย้อนความหลังไปในตัว” น.ส.วิลาสินีกล่าว

เมื่อถามว่า ส่วนตัวเป็นคนเชื้อสายจีนหรือไม่ และทำไมถึงเลือกเรียนภาษาจีน?

น.ส.วิลาสินีเผยว่า ส่วนตัวไม่ได้มีเชื้อสายจีน แต่เป็นคนชอบดูซีรีส์จีน

“พวกหนังจีนกำลังภายใน ชอบมาก ความจริงชอบทุกแนว ส่วนตัวเป็นคนตามดาราจีนอยู่แล้วด้วย เลยสนใจเรียนต่อสายภาษาจีน เรียนมาตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 1 พอฟังออกได้ แต่ยังพูดได้ไม่คล่องมาก วันนี้ไม่คิดว่าคนจะมาร่วมเยอะขนาดนี้” น.ส.วิลาสินีกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image