ชลน่าน-บิ๊กต่อ กางโต๊ะแจงดราม่า “ยาบ้า 5 เม็ด” ยัน ครอบครองกี่เม็ดก็มีความผิด แต่ถ้าเสพจริง กฎหมายเปิดช่องให้กลับตัว เข้าบำบัดรับโทษทางสังคม
เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมแถลงข่าวมาตรการรองรับหลังการประกาศกฎกระทรวงสาธารณสุข กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ.2567
นพ.ชลน่านกล่าวว่า การออกกฎกระทรวงดังกล่าวเป็นการออกตามความในมาตรา 107 วรรคสอง ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ที่ให้อำนาจ รมว.สธ.กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1, 2 และ 5 เพื่อสันนิษฐานว่าเป็นการครอบครองปริมาณเล็กน้อยไว้เพื่อเสพ จึงเป็นที่มาของกฎกระทรวงฉบับนี้ ซึ่งเมื่อสันนิษฐานว่าเป็นผู้เสพก็จะเข้าสู่การบำบัดรักษาได้โดยความสมัครใจ ทั้งนี้ การบำบัดจนจบกระบวนการคือ 3-4 เดือน และได้รับรองว่าผ่านการบำบัดแล้วจากผู้อำนวยการโรงพยาบาล/สถาบันบำบัด จึงจะถือเป็นการยุติโทษ จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการของชุมชนบำบัด หรือชุมชนล้อมรักษ์ (CBTx) ซึ่งเป็นการรับโทษทางสังคมในการบำบัดรักษาแล้ว โดยสิ่งนี้เป็น “จุดแตกหักในการต่อสู้กับยาเสพติด” ดังนั้น ระบบของชุมชนล้อมรักษ์จะมีหน่วยงานในการค้นหาบุคคลเสี่ยงเข้าสู่การบำบัดฟื้นฟูที่จะมีกิจกรรมบำบัดตามเวลากำหนดที่ชัดเจน ซึ่งระหว่างนี้จะไม่สามารถเคลื่อนย้ายถิ่นฐานได้จนกว่าบำบัดครบนพ.ชลน่านกล่าว อย่างไรก็ตาม ในความเข้าใจว่าการเสพไม่ถือเป็นความผิดนั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นผู้เสพ ผู้ครอบครอง หรือผู้ค้า ล้วนมีความผิดตามกฎหมายทั้งหมด กรณีผู้เสพถ้าหากพิสูจน์ได้ เช่น ตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดในร่างกาย จะมีฐานความผิดคือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท กรณีผู้ที่มียาเสพติดไว้ในครอบครอง ซึ่งเป็นไปตามที่กฎกระทรวงได้ประกาศไว้คือ ไม่เกิน 5 เม็ด ก็จะมีความผิดจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท ส่วนผู้ค้าไม่ว่าจะกี่เม็ดก็ต้องได้รับโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000-1.5 ล้านบาท ให้ยาเสพติด เพียงแต่กฎหมายฉบับดังกล่าวเป็นการให้โอกาสผู้ที่หลงผิดได้กลับตัวผ่านการบำบัด
“ตามที่มีประเด็นกล่าวถึงว่าชลน่านออกกฎหมายกำหนดยาบ้า 5 เม็ด จึงต้องชี้แจงว่ากฎกระทรวงเป็นกฎหมายระดับรองที่มีกฎหมายหลักเขียนไว้ว่าต้องมีกฎหมายรองตามบทบัญญัติของกฎหมาย โดยกฎกระทรวงจะต้องมีการพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นก็จะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งประกาศกฎกระทรวงเรื่องยาบ้า 5 เม็ดนั้น ได้เปิดรับฟังความเห็นในช่วงเดือน ธ.ค.2566 เป็นเวลา 15 วัน ก่อนถูกส่งเข้า ครม. และได้รับการเห็นชอบเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2566 เรื่องนี้เราไม่ได้คิดเอง จึงขอฝากถึงอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกษียณอายุราชการแล้วออกมาให้ข้อมูลทางโซเชียล สร้างความเข้าใจผิดต่อสังคม ว่าขอให้ทุกท่านศึกษารายละเอียดเรื่องนี้ก่อนที่จะนำเสนอข้อมูลเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม โดยทาง สธ.ก็จะส่งข้อมูลที่ถูกต้องกับท่าน หวังว่าท่านจะแก้ไขและนำเสนอให้ถูกต้อง” นพ.ชลน่านกล่าวเมื่อถามถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้ข่าวว่า หากการกำหนดจำนวนไม่เหมาะสมก็จะมีการแก้ไขใหม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า กฎกระทรวงได้มีการประกาศใช้แล้ว ซึ่งหากจะปรับเปลี่ยนก็จะต้องมีการประเมินผลว่าการเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ค้านั้นมีผลทางบวกทางลบแค่ไหน ดังนั้น หลังจากนี้ก็ต้องมีการเก็บข้อมูลต่อเพื่อพิจารณาในอนาคต
ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า ผู้ครอบครองยาบ้าไม่ว่ากี่เม็ดก็มีความผิดอยู่ ซึ่งในกรณีครอบครองต่ำกว่า 5 เม็ด กฎหมายไม่ได้บอกว่าเป็น “สันนิษฐานเด็ดขาด” แต่ใช้คำว่า “ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้เสพ” จากนั้นจะมีการพิจารณาจากพฤติการณ์ รวมถึงหากครอบครองมากกว่า 5 เม็ด ผู้ครอบครองจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าไม่ได้มีไว้เพื่อการจำหน่าย หากพิสูจน์ได้ก็จะเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา แต่ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ก็จะมีความผิดฐานครอบครองยาเสพติด ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายเทียบเท่ากับผู้ค้าขณะที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์กล่าวว่า กรณีผู้เสพเข้าสู่การบำบัดรักษาแล้วกลับออกมาเสพซ้ำ ตามกฎหมายยังให้โอกาสเข้ารับการบำบัดซ้ำได้ โดยกระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงมหาดไทยต้องแบกรับภาระตรงนี้ต่อ เบื้องต้นทาง ป.ป.ส.มีงบประมาณรองรับในส่วนนี้ โดยขณะนี้ได้จัดสรรให้ใน 30 จังหวัด ที่มีปัญหาผู้ป่วยจิตเวชจากยาเสพติด รวม 4,414 คน ให้จังหวัดละ 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ความกังวลว่าผู้ค้าจะศรีธนญชัย ปรับเปลี่ยนแพคเกจยาบ้าจาก 10 เหลือ 5 เม็ดนั้น ตรงนี้มีข้อมูลการวิจัย พบว่าพฤติกรรมผู้เสพจะครอบครองยาบ้าไว้สำหรับ 5 วัน ใช้เสพปริมาณวันละ 1 เม็ด ถ้าเกินกว่านี้ให้สันนิษฐานไว้ว่าไม่ใช่การเสพ ดังนั้น ไม่ต้องกังวลว่าจะมีการปรับกลยุทธ์การขายยาบ้ามาเหลือ 5 เม็ด เพราะไม่ว่าครอบครองกี่เม็ดก็ถือว่ามีความผิด