ตะวัน ชี้อย่าเป็นเหยื่อไอโอ ปมตำรวจแจงนักข่าว-ช่างภาพ ร่วมวางแผนพ่นสีกำแพงวัง ยันนักข่าวจะพูดคุยกับนักกิจกรรมก่อนวันเกิดเหตุไม่แปลก เพราะช่วงนั้นมี ‘ยืน-หยุด-ขัง’
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เปิดเผยหลังตำรวจเปิดหลักฐานสาเหตุแจ้งจับนักข่าวร่วมสนับสนุนการทำลายโบราณสถาน เพราะมีการวางแผนและดูสถานที่วันก่อนเกิดเหตุนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะมีภาพนักกิจกรรมพูดคุยกับนักข่าวในวันดังกล่าว เพราะช่วงนั้นมีกิจกรรม “ยืน-หยุด-ขัง” มีนักข่าวและช่างภาพมาทำข่าวกิจกรรมตามปกติ พร้อมบอกว่าอย่าตกเป็นเหยื่อไอโอที่พยายามจะบอกว่าเป็นการพูดคุยวางแผนกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามต่อว่า น.ส.ทานตะวันยืนยันใช่หรือไม่ว่าภาพที่นักข่าวและนักกิจกรรมมีการพูดคุยกันวันก่อนเกิดเหตุไม่ใช่การวางแผนนัดแนะ
น.ส.ทานตะวันกล่าวว่า ตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จึงไม่ทราบว่ามีการพูดคุยอะไรกัน แต่ก็มองว่าการที่มีเพียงภาพวงจรปิดว่ามีการยืนพูดคุยกัน ไม่น่าจะเป็นหลักฐานว่าเป็นการนัดแนะวางแผนก่อเหตุได้ เพราะดูแค่จากภาพ ตำรวจก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นการพูดคุยอะไรกัน ในช่วงที่จัดกิจกรรม ยืน หยุด ขัง ซึ่งผู้สื่อข่าวและนักกิจกรรมไปทำตามหน้าที่ตนเองตามปกติ ไม่มีเบื้องหลัง ไม่มีการนัดแนะสนับสนุนใดๆ ทั้งสิ้น
ส่วนกรณีเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมแจ้งข้อหา น.ส.ทานตะวัน ตามมาตรา 116 นั้น น.ส.ทานตะวันมองว่าไม่มีส่วนใดเข้าองค์ประกอบ โดยในวันนั้นเป็นการถามในสิ่งที่ตนสงสัย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตอบว่าการกระทำวันดังกล่าวเข้าข่ายความผิดมาตรา 116 อย่างไร ตนยืนยันไม่หลบหนีและจะรอให้เจ้าหน้าที่มาคุมตัว
นอกจากนี้ น.ส.ทานตะวันยืนยันว่าในวันเกิดเหตุตนจะมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งมีขบวนเสด็จฯ โดยวันดังกล่าวตนไม่ทราบว่าเป็นขบวนของใคร ตนไม่ได้ขัดขวางขบวน แต่เป็นการตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและยอมรับผิดว่ามีการขับรถหวาดเสียวเท่านั้น
ส่วนเส้นทางการเงินตนยืนยันได้ว่าไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง และพร้อมให้ตรวจสอบ
กรณีที่เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ว่า น่าจะมีบุคคลให้คำแนะนำในการกระทำและเคลื่อนไหว น.ส.ทานตะวันตอบว่า อย่าเพ้อเจ้อ เพราะที่ตนออกมาแสดงออกเป็นการทำเพื่ออุดมการณ์อย่างแท้จริง ส่วนการตั้งคำถามในทุกกิจกรรม ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ใหญ่คนไหนมาตอบคำถาม มีแต่ออกหมายจับและนำตัวเข้าคุก
โดย น.ส.ทานตะวันทิ้งท้ายว่า หากผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองรับฟังข้อเรียกร้องและคำถามของตน ก็พร้อมยินดีที่จะหันหน้าเข้ามาคุยกันโดยสันติ พร้อมที่จะยกมือไหว้และแก้ปัญหาเพื่อประโยชน์ของประชาชน