ชัชชาติ ชนหมัด เศรษฐา เสนอ 6 วาระเร่งด่วน รอสร้างแหลมฉบับเฟสใหม่เสร็จ เล็งย้ายท่าเรือคลองเตย

ชัชชาติต้อนรับเศรษฐาชื่นมื่น เสนอ 6 วาระเร่งด่วนแก้ปัญหาร่วมกัน รอสร้างแหลมฉบังเฟสใหม่เสร็จ พิจารณาย้ายท่าเรือคลองเตยออก แต่ต้องไม่กระทบการส่งออก

เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะผู้บริหาร กทม. ให้การต้อนรับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ในการประชุมติดตามความคืบหน้ามติที่ประชุมคณะทำงานเร่งรัดพัฒนากรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2567

นายชัชชาติกล่าวรายงานวาระการประชุม 6 หัวข้อหลัก ได้แก่

1.การแก้ไขปัญหาจราจร โดยต้องมีการกวดขันวินัยจราจร ปรับปรุงด้านกายภาพ และการใช้เทคโนโลยี 2.การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ โดยการเพิ่มบริการรถ Feeder ให้เข้าถึงตรอกซอกซอยมากขึ้น  3.การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยให้ Work from Home ปลูกต้นไม้ล้านต้น เพิ่มสวน 15 นาที โครงการย้ายท่าเรือคลองเตย ตามวาระแห่งชาต่การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง พ.ศ.  2562                    4.การแก้ไขปัญหาแท็กซี่ รถตุ๊กๆ และมัคคุเทศก์ผี โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบกช่วยดูแล                                                                                                                        5.การนำพื้นที่ราชการมาพัฒนาเป็นพื้นที่ทำมาหากินของผู้มีรายได้น้อย โดยการสร้าง Hawker Center ตามจุดต่างๆทั่วกรุง                                                                                                           6.การแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันตรวจจับ บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง

Advertisement

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ตรวจเยี่ยมแถวเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กรมการขนส่งทางบก สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักเทศกิจ และสำนักอนามัย พร้อมทั้งปล่อยขบวนรถออกปฏิบัติการ บริเวณลานคนเมือง

Advertisement

นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นจังหวะที่ดี เพราะเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ได้แถลงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” 8 ด้าน ซึ่งหลายข้อเกี่ยวข้องกับทางกรุงเทพฯ ด้วย ปฎิเสธไม่ได้ถึงแม้ว่าเราพยายามกระจายความเจริญไปยังต่างจังหวัด กรุงเทพฯ ยังเป็นประเทศไทยเล็กๆอันหนึ่ง ดีใจที่ได้มาเยือน กทม.เป็นครั้งแรก ได้ทราบถึงวิสัยทัศน์แผนงานของผู้ว่าฯ ชัชชาติ ในระยะสั้น กลาง ยาว ซึ่งนโยบายหลายอันล้อไปกับ Thailand Vision และนโยบายของรัฐบาลด้วย

ประเด็นที่ได้ฝากไปถึงผู้ว่าฯ คือท่านทำงานเยอะ ทำอะไรดีๆเยอะ แต่บางทีพูดน้อยไปนิดนึง ก็อยากให้มีการสื่อสารกัน ไม่ใช่แค่การแถลงผลงานอย่างเดียว การแถลงให้ทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ให้พี่น้องประชาชนรับทราบข่าวสาร และนำไปปฏิบัติได้ ก็จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ทางฝ่ายรัฐบาล นางพวงเพ็ชรก็มีการประสานใกล้ชิดกับผู้ว่าฯ ดีอยู่แล้ว แต่ก็อยากให้ทำงานได้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น มีการรับนโยบายของ กทม.ไปช่วยขยายผลได้ ถ้ามีอะไรติดขัดกับฝ่ายรัฐบาล ก็ให้นางพวงเพ็ชรเป็นผู้ประสาน ท่านรองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มาดูเรื่องความปลอดภัย เรื่องความมั่นคง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ

“วันนี้เราจะพยายามทำงานให้ใกล้ชิดมากขึ้น ทำให้การสื่อสารดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่นเรื่องของ PM 2.5 ที่ท่านผู้ว่าฯ ประกาศให้ Work from Home ทำให้ปริมาณรถลดลง 9% ถ้าเกิดมีการประสานที่ดีกับรัฐบาล เราก็จะประกาศพร้อมกัน ต่างคนต่างพยายามทำงานเต็มที่อยู่แล้ว เพียงแต่ทำให้การประสานงานดีขึ้น เรื่องเหล่านี้จะทำให้คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องดีขึ้น“ นายเศรษฐากล่าว

นายเศรษฐา กล่าวว่า ส่วนปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า ไฟฟ้าในหมู่เยาวชน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องจัดการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพราะพบถึงขั้นทำบุหรี่ไฟฟ้าเป็นรูปกล่องนม ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเยาวชน เป็นเรื่องที่ไม่ควร ทั้งเรื่องการนำเข้าการเข้มงวดศุลกากรก็ต้องตรวจค้นมากยิ่งขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ

เมื่อถามว่า รัฐบาลจะมีแนวทางแก้ปัญหาจราจรติดขัดเพื่อลดปัญหาฝุ่นมลพิษได้อีกทางหนึ่ง นายเศรษฐากล่าวว่า ปัจจุบันการจราจรก็มีการบริหารจัดการกันอย่างชัดเจน ถามว่าทำได้ดีกว่านี้ไหม ซึ่งผู้ว่าฯ กทม. ก็มีการนำเสนอไปแล้วว่ามีความเข้มงวดในเรื่องวินัยการจราจร การสนับสนุนให้ประชาชนใช้บริการสาธารณะมากยิ่งขึ้น เช่น รถไฟฟ้า ที่จะทำให้ดีกว่านี้ โดยจะต้องมีการลดค่าโดยสารเพื่อลดการจราจรที่หนาแน่นลงได้

ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า หัวใจการแก้ปัญหารถติดไม่ใช่การทำถนนเพิ่ม แต่เป็นการทำขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลหลายๆรัฐบาล ก็ได้ทำเส้นเลือดใหญ่จำนวนมากแล้ว อย่างรถไฟฟ้า สายสีส้ม สายสีเหลือง สายสีชมพู สายสีม่วง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือการที่จะทำอย่างไรให้ประชาชนเดินออกจากบ้านแล้วไปถึงรถไฟฟ้าได้ ก็เป็นสิ่งที่เรากำลังดำเนินการอยู่ ขณะที่กทม.ได้ทำทางเดินเท้าเพื่อให้ประชาชนเดินทางได้อย่างสะดวก ซึ่งภายใน 4 ปี จะทำทางเดินเท้าให้ดีขึ้น 1,700 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมโยงระบบรถในซอยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และระบบโครงสร้างหลัก นี่คือสิ่งที่แก้ปัญหาระยะยาว รวมทั้งระเบียบวินัยการจราจรต่างๆที่มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เรื่องสัญญาณไฟจราจร เห็นผลเป็นรูปธรรมภายในปีนี้เป็นต้นไป

เมื่อถามว่า ถึงนโยบายค่าโดยสารรถไฟ 20 บาทตลอดสาย เห็นว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3 ปีหน้า ไม่ทราบว่ารัฐบาลจะมีการแก้ไขสัญญาสัมปทานอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า ขอให้รมว.คมนาคมเป็นผู้แถลง

เมื่อถามถึงเรื่องฝุ่นแม้ กทม.จะดำเนิน นโยบายป้องกันแต่หลายฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องเดิมๆ ที่เคยทำมาทุกปีในช่วงที่มีฝุ่น จึงมองว่าการแก้ไขควรจริงจังมากกว่านี้หรือไม่โดยเฉพาะกทม. ที่มีกฎหมายอยู่แล้ว แม้จะมีการควบคุม แต่ว่าเขตก่อสร้าง หรือแม้แต่รถก็ยังมีการดำเนินการอยู่ดีควรมีนโยบายที่จริงจัง หรือบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดกว่านี้หรือไม่

นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเห็นว่าจะต้องแฟร์กับทางเจ้าหน้าที่ กทม. ทุกท่านด้วย ซึ่งปัญหาฝุ่นมีทุกปีอยู่แล้ว แต่ปีนี้พิสูจน์ทราบได้ว่าปริมาณลดลงชัดเจน ผู้ว่าฯ กทม.เข้ามาเกือบ 2 ปีแล้ว ท่านได้ทำอะไรดีๆหลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องใหญ่มาถึงเรื่องนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ร่วมกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หลายหน่วยงาน เพื่อให้ประชาชนมาเปลี่ยนไส้กรอง ให้รถที่ปล่อยไอเสียลดน้อยลง

รวมถึงการออกนโยบายมีรถอัดฟางให้พื้นที่เขตหนองจอก แทนที่จะมีการเผา เรื่องที่ตนพูดเป็นเรื่องเล็ก แต่ผู้ว่ากทม.ฯและคณะกรรมการของกทม ไม่ได้ละเลย ดูรายละเอียดทุกรายละเอียด แต่ปัญหาฝุ่น PM 2.5 มีมานานแล้ว รวมถึงเรื่องโครงสร้างอีกหลายอย่าง วันนี้รถยนต์ไฟฟ้าก็มีการจดทะเบียนกว่า 10% แล้ว โดยในงานมอเตอร์โชว์เมื่อปลายปีที่แล้ว มีการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า 40% ทั้งนี้ ปัญหาฝุ่นที่เกิดขึ้นในกทม.เกิดจากการใช้รถยนต์กว่า 50% ถ้าเราสามารถทำให้คนมาใช้รถไฟฟ้ามากยิ่งขึ้นได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี รวมถึงการขนส่งต่างๆ ที่ต้องใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่

ในขณะที่มีท่าเรือคลองเตยอยู่ ซึ่งผู้ว่าฯกทม.ก็ได้เสนอเรื่องนี้ ทางรัฐบาลก็ได้มีการพูดคุยกันว่า ท่าเรือคลองเตยจะมีการย้ายออกไปหรือไม่ เพราะถ้าหากไม่มีการย้าย ก็จะยังมีการใช้รถบรรทุกขนของต่างๆผ่านเข้ามาในเขตกรุงเทพฯ ทำให้เกิดปัญหา PM 2.5 ยืนยันว่าทางรัฐบาลและ กทม.ได้พยายามแก้ไขปัญหานี้อยู่ แต่จะให้ทั้งหมดกลายเป็นศูนย์เลย ในระยะเวลานี้ มันก็คงไม่เป็นธรรม กับผู้ว่าฯ กทม.เท่าไหร่ เพราะท่านพยายามทำอย่างเต็มที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ความจริงจัง และความจริงใจมีอยู่แล้ว

ด้าน นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องฝุ่นเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ จะต้องวิเคราะห์ให้ได้อย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นจะแก้ผิดจุด ที่ผ่านมาเราดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเข้มข้น อย่างเรื่องไซต์ก่อสร้างก็มีการตรวจอย่างเข้มข้น ส่วนเรื่องรถยนต์ถ้าเราห้ามรถยนต์วิ่งในกรุงเทพฯ มันจะช่วยหรือไม่ อันนี้ต้องคิดให้ดี ยกตัวอย่างที่ผ่านมาฝุ่นเยอะมาก แถวเขตมีนบุรีและหนองจอก ซึ่งทั้ง 2 เขตเป็นเขตที่ไม่มีรถยนต์เลย ถ้าเช่นนั้นก็แสดงว่า ถ้าเราห้ามไม่ให้รถยนต์วิ่ง ให้หยุดวิ่งจริง แต่ปรากฏว่าฝุ่นสูง ซึ่งตนคิดว่าฝุ่นอาจจะมาจากด้านนอกกรุงเทพฯ และเรื่องนี้เป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องคิดให้ละเอียดรอบคอบ ในการออกมาตรการต่างๆ เพราะจะกระทบกับชีวิตของประชาชนจำนวนมาก ซึ่งเราได้มีการหารือกรมการขนส่งทางบก เรื่องการวางแผนระยะยาว ในการลดจำนวนรถเก่าลง ซึ่งคงจะเป็นเรื่องของกฎหมายที่จะค่อยๆพัฒนา ให้รอบคอบต่อไป

เมื่อถามว่า มีการพิจารณาย้ายท่าเรือคลองเตย การปรับเปลี่ยนตรงนี้ในมุมมองของนายกฯ ได้มีการชั่งน้ำหนักเรื่องการขนส่งที่มีมูลค่า ของท่าเรือคลองเตย กับน้ำหนักเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่นอย่างไร

นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นคำถามที่ดี มันจะต้องดูให้ครบทั้งองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพัฒนา ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง เฟส 2 และเฟส 3 ถ้าตรงนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว จะต้องล้อกันไป โดยที่จะต้องไม่กระทบกับการส่งออก

ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า ท่าเรือคลองเตยอยู่ในแผนวาระฝุ่นแห่งชาติอยู่แล้ว ตั้งแต่ปี 2562 ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่อาจจะต้องมีการทบทวน ว่ามันเวิร์คหรือไม่เวิร์คขนาดไหน แต่จะเห็นตัวอย่างจากทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ท่าเรือที่อยู่ในเมืองเขาย้ายออกข้างนอก เรามีปัญหาเรื่องการควบคุมน้ำทะเลที่หนุนสูง เพราะหากมีเรือใหญ่เข้ามา แล้วน้ำทะเลหนุน เราจะควบคุมอย่างไร เพราะมีหลายปัจจัย ซึ่งคิดว่านายกฯจะให้ศึกษารายละเอียดให้รอบคอบอีกครั้ง

เมื่อถามอีกว่า ความมั่นคงปลอดภัยทางกรุงเทพฯ จะมีการติดกล้อง CCTV นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นหรือไม่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศ นายเศรษฐา กล่าวว่า CCTV เป็นแค่ปัจจัยเดียว การเอาระบบและเทคโนโลยีต่างๆ ก็จะมีการพิจารณาเพิ่มเติมให้ดีขึ้น

เมื่อถามอีกว่า ในวาระ 4 ปี นายกฯอยากเห็นอะไรในกทม .ในเรื่องการพัฒนามากที่สุด

นายเศรษฐา กล่าวว่า มีหลายมิติ ท่านผู้ว่าฯเองก็พูดไปแล้วทั้งเรื่องความสะอาดความปลอดภัย การจราจร เรื่อง PM 2.5 และเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของรถแท็กซี่ คนหาบเร่แผงลอยต่างๆเหล่านี้ต้องได้รับความเป็นธรรม และทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่

เมื่อถามต่อว่า การทำงานกับผู้ว่า กทม.จะไม่มีความขัดแย้งกัน สามารถทำงานร่วมกันได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า

“ผมเชื่อว่าท่านดูจากภาษากาย ท่านคงทราบว่าไม่มีปัญหาอะไรกันเลย ท่านผู้ว่าฯ เชิญผมมา ผมก็ยินดี ที่มาและขอขอบคุณด้วย ซึ่งเราเองมีการคุยกันตลอดเวลา ไปที่ทำเนียบรัฐบาลเจอกัน 5-6 คน พูดคุยกันตลอดเวลา ยกหูสายตรงได้ตลอด เรื่องนี้ไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้นเลย และไม่เคยมีด้วย” นายเศรษฐากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image