ผู้ประกอบการสถานบันเทิง “ป่าตอง” ยื่นหนังสือขอเปิดถึงตี 4 หวั่นกระทบรายได้หากปิดตี 1

ผู้ประกอบการสถานบริการและสถานบันเทิงในป่าตองยื่นหนังสือถึงนายกขอขยายเวลาเปิดปิด

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการสถานบริการและสถานบันเทิงในพื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นำโดย นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง พร้อมด้วย นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น นายทิติ พัฒนจินดา และตัวแทนผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตองจำนวนกว่า 20 คน เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ขอให้พิจารณาขยายเวลาปิดสถานบันเทิงหาดป่าตอง ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหลังได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายการเปิด-ปิดสถานบริการในเวลา 24.00 น. และสถานบันเทิงในเวลา 01.00 น.โดยมีนายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นตัวแทนรับหนังสือ และรับฟังปัญหาของผู้ประกอบการ

นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้กำหนดเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิง โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิงตามมาตรา 3 (4) ในเขตปริมณฑลปิดบริการในเวลา 01.00 น. โดยมีผลบังคับเป็นกฎกระทรวงเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2547นั้น ทำให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผู้ที่มีธุรกิจต่อเนื่อง หรือเกี่ยวข้องต่อสถานบันเทิง แรงงาน ในสถานบันเทิงในตำบลป่าตอง ได้รับความเดือดร้อนจากการจำกัดเวลาในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่ออกมาใช้บริการสถานบริการและสถานบันเทิงค่อนข้างดึก ทำให้มีระยะเวลาประกอบการค่อนข้างน้อย เพียง 1-2 ชั่วโมง จึงขอให้มีการขยายเวลาเปิดปิดสถานบันเทิงจากเวลา 01.00 น.เป็นเวลา 04.00 น.

ขณะที่นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ตัวแทนผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการหาดป่าตองใช้พื้นที่เล็กๆ ในการสร้างรายได้เข้าประเทศ ด้วยการพัฒนาทั้งการบริการและบุคลากรของสถานบันเทิงให้เทียบเท่านานาชาติ มีการลงทุนเป็นเม็ดเงินมหาศาล แต่กฎหมายสถานบันเทิงที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันไม่ทันสมัย และไม่สามารถที่จะแข่งขันกับนานาชาติได้ จึงอยากจะให้มีการปรับปรุงให้ทันสมัย และเหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ ไม่ใช่เหมารวมเหมือนกันทั่วประเทศ

Advertisement

“การที่จังหวัดภูเก็ตเข้มงวดให้สถานบันเทิงปิดตามเวลาที่กฎหมายกำหนดในเวลา 01.00 น.นั้น เข้าใจว่าเป็นการปฏิบัติการตามกฎหมาย แต่ทำให้ภูเก็ตสูญเสียรายได้มหาศาล โดยเฉพาะในพื้นที่ซอยบางลา ป่าตอง ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 625 ตารางเมตร การปิดเร็วเป็นเวลา 1 วัน สูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท แต่หากปิดเวลา 05.00 น.จะสร้างรายได้คืนละไม่ต่ำกว่า 100-150 ล้านบาท ปีละไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท สามารถทำรายได้ให้รัฐในรูปแบบของภาษีต่างๆ ไม่ต่ำกว่าปีละ 5,000-6,000 ล้านบาท โดยรายได้เกือบทั้งหมดมาจากนักท่องเที่ยวชาวชาติเป็นหลัก ที่พร้อมนำเงินมาใช้จ่าย”

201702012008454-20150427133841

นายปรีชาวุฒิ กล่าวด้วยว่า นอกจากมีผลกระทบกับรายได้แล้ว ยังมีปัญหาอื่นตามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อม เพราะเมื่อสถานบริการปิดเร็ว นักท่องเที่ยวก็จะไปรวมตัวกันที่ชายหาด สร้างความสกปรก ตามมาด้วยปัญหาอาชญากรรม และยังส่งผลกระทบผู้คนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนขายดอกไม้ รถตุ๊กๆ รวมแล้วไม่ต่ำกว่าแสนคน เปรียบเหมือนเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวเลยทีเดียว ส่วนตัวมองว่าควรจะขยายไปถึงเวลา 05.00 น. เพื่อจะได้ไม่กระทบกับส่วนอื่นของสังคม เบื้องต้นพื้นที่ที่ดำเนินการควรจะเป็นย่านที่เป็นสถานบันเทิงอยู่อยู่แล้ว เช่น ซอยบางลา และพื้นที่ใกล้เคียง ขณะเดียวกันในส่วนของผู้ประกอบการก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการดูแลเรื่องของความปลอดภัย และความเป็นระเบียบเรียบร้อยต่างๆ ด้วย

อย่างไรก็ตามในกรณีที่มีการออกมาระบุในโซเชียล ว่า สถานบันเทิงหาดป่าตองมีการจ่ายส่วยให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น นายปรีชาวุฒิ กล่าวว่า เชื่อว่าผีมีจริง แต่ไม่เคยมีใครเห็นผี เรื่องของส่วยสถานบันเทิงป่าตองก็เช่นกัน อาจจะมีบ้างที่บางคนบางกลุ่มยังจ่ายอยู่ แต่คงไม่ใช่การเดินเก็บ หรือมีการกำหนดว่าร้านนั้นร้านนี้ต้องจ่ายเท่าไร และมองว่าเป็นเรื่องของความสมยอมระหว่างสถานบันเทิงกับเจ้าหน้าที่รัฐบางคน เพราะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ไม่ใช่ว่าจะเก็บส่วยทุกคน และที่ผ่านมาสิ่งเห็นคือ การช่วยเหลือสนับสนุนการทำกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ

ด้านนายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้ประกอบการสถานบันเทิงจังหวัดภูเก็ตที่มีความเข้าใจว่า ทางจังหวัดจำเป็นจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งบังคับใช้เหมือนกันทั่วประเทศ ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการฯ จะได้นำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเพื่อรับทราบ และนำเสนอปัญหาดังกล่าวต่อไปยังรัฐบาลต่อไป พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการได้ช่วยสร้างความเข้าใจต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกี่ยวกับรายละเอียดข้อกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

201702011950463-20150427133841

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image