เจ้าของโรงงานซุกแคดเมียม เลื่อนให้ปากคำ จ่อเอาผิดโกดังบางซื่อ เผยขายคนจีนตันละ 22,000 หยวน

ผู้การ ปทส. เผย เจ้าของโรงงานซุกแคดเมียมเลื่อนเข้าให้ปากคำ 18 เม.ย.นี้ จ่อเอาผิด 4 ข้อหา เจ้าของโรงงานย่านบางซื่อ

เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนัดหมายให้ นายเจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย กรรมการ บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด มาให้ปากคำที่ บก.ปทส. ว่าหลังจากวันที่ 5 เมษายน ที่อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ บริษัท เจ แอนด์ บีฯ ทางเจ้าหน้าที่จึงรอการสอบสวน ก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับนายเจษฎา และนัดหมายให้เข้ามาให้ปากคำวันนี้ (11 เมษายน) แต่นายเจษฎาขอเลื่อนไปวันที่ 18 เมษายน เนื่องจากอยู่ต่างจังหวัด โดยจะต้องรอเอกสารเพื่อดูเหตุผลของการขอเลื่อนอีกครั้ง

โดยก่อนหน้านี้ที่อยู่ระหว่างการค้นหาแคดเมียม เจ้าหน้าที่ก็พยายามติดต่อเพื่อขอทราบข้อมูลจากนายเจษฎา แต่ช่วงแรกยังไม่สามารถติดต่อได้ มาเริ่มติดต่อได้ในภายหลัง ซึ่งนายเจษฎาอ้างว่าจะขอปรึกษาทนายเรื่องคำให้การก่อน และการเชิญมาให้ปากคำตามกำหนดวันนี้ เป็นเพียงแค่การเชิญมาให้ปากคำ แต่ยังไม่ได้ออกหมายเรียก แต่หากมาให้ถ้อยคำแล้ว ก็จะต้องพิจารณาในเรื่องการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะตอนนี้ข้อกล่าวหายังไม่ครบถ้วน และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากการดำเนินคดี มีวัตถุอันตรายไว้ในครอบครองจะต้อง ประกอบด้วย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร, พ.ร.บ.แร่, พ.ร.บ.สาธารณสุข และ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมาร้องทุกข์กล่าวโทษ จากนั้นจึงจะได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมกันทีเดียว

พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวว่า ส่วนเหตุผลที่ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาเหมือนกับรายอื่นๆ ที่เข้าไปตรวจค้น ทั้งที่ จ.ชลบุรี และสมุทรสาคร เพราะบริษัท เจ แอนด์ บีฯ ได้รับอนุญาตให้เป็นที่ปลายทางที่ลงของกากแคดเมียม ดังนั้นการดำเนินการเรื่องครอบครองวัตถุอันตรายฯ จึงต้องดูเจตนาก่อน เท่ากับว่าตอนนี้จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้แค่ ผิด พ.ร.บ.โรงงาน ได้เท่านั้น รวมถึงรอเจ้าหน้าที่มาให้การเพิ่มเติมหลังจากพบแคดเมียมเพิ่มที่บริษัท เจ แอนด์ บีฯ เมื่อวันที่ 10 เมษายน ด้วย

Advertisement

พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวยืนยันว่า อย่างไรนายเจษฎาก็ต้องถูกดำเนินคดี แต่รอการสอบสวนก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และไม่มีคนใหญ่คนโต หรือเจ้าตัวก็ไม่ได้เป็นคนใหญ่โตตามที่เป็นกระแสข่าว เป็นแค่คนธรรมดาที่ไปกู้ยืมเงินมาซื้อสินค้าล็อตนี้โดยเฉพาะ

ส่วนการดำเนินคดีกับนางวรรณา เจ้าของโรงงานที่ถูกตรวจพบจำนวน 150 ตัน ในเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร และนางวรรณา ซึ่งเป็นภรรยาของนายเจษฎา จากการสอบปากคำ

พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวว่า นางวรรณาอ้างว่าไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกในการนำแคดเมียมมา และมีการทะเลาะกับสามี และน่าจะหาที่เก็บยังไม่ได้จึงเก็บไว้ที่โรงงานย่านบางซื่อ ซึ่งมีการนำเข้ามาฝากไว้ตั้งแต่ ธ.ค.2566 และเป็นแคดเมียมที่เป็นของกลางล็อตต้นๆ ที่เคลื่อนย้ายมาจากจังหวัดตาก โดยหลังจากนี้ เจ้าของโรงงาน จะถูกดำเนินคดี ในฐานเข้าข่ายความผิด มากกว่า 1 ข้อหา คือ ครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต, พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร, พ.ร.บ.โรงงาน และ พ.ร.บ.แร่

Advertisement

พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้นเมื่อวานนี้ สืบเนื่องจากการตรวจสอบว่า ในบริษัท เจ แอนด์ บีฯ มีใครเป็นกรรมการบริษัทบ้าง ซึ่งพบชื่อ นายเจษฎา มีบ้าน 3 จุดคือ ชลบุรี, สมุทรสาคร และกรุงเทพมหานคร และเมื่อวานจะไปทำการส่งหมายเรียก แต่พอไปถึงปรากฏว่าไปเจอกากแคดเมียมที่ถูกเก็บไว้ จึงได้ประสานกรมโรงงานอุตสาหกรรมเข้ามาตรวจสอบ

ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัวนายหน้า ที่ชื่อนายกฤต หลังจากเข้าตรวจค้นโรงงานของนายจาง ที่ จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2567 แล้วพบข้อมูลเอกสารว่า มีนายหน้าที่ติดต่อซื้อขายด้วยอีกคนคือนายกฤตนั้น พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวนายกฤตได้แล้ว และได้สอบปากคำไว้เป็นพยานก่อน ซึ่งเบื้องต้นจากการสอบปากคำ พบว่า นายกฤตเป็นพนักงานของบริษัท เจ แอนด์ บีฯ ดูแลพื้นที่ จ.ตาก แต่ถูกพักงานไปแล้ว และนายกฤตก็ได้รับเงินค่านายหน้า จากการซื้อขายกากแคดเมียม ที่ติดต่อกับนายจาง ตันละ 200 บาท รับเงินไปแล้ว 200,000 บาท จากนายจางไปแล้ว โดยเงินค่านายหน้าทั้งหมดจำนวน 1,000,000 บาท จากการตรวจสอบพบว่า นายกฤตเป็นนายหน้าให้กับเจ้าเดียว ยังไม่พบข้อมูลให้เจ้าอื่น

สำหรับแนวทางการสืบสวนขยายผลและตามหากากอุตสาหกรรมที่เหลือนั้น พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวว่า จะเน้นไปที่การสอบสวน เพราะการสอบสวนจะสามารถใช้อำนาจพนักงานสอบสวนไปยึดไปตรวจสอบทำให้ได้ข้อมูลหลักฐานเพิ่มขึ้น ส่วนฝ่ายสืบสวนก็ยังคงทำงานอีกส่วนเช่นกัน และการดำเนินการที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นสอบสืบสวนขยายผลจากพยานเอกสารเป็นหลัก และก็พบว่า บริษัทที่รับซื้อแคดเมียม มีแต่ชื่อของคนจีน การขายอยู่ที่ 22,000 หยวนต่อตัน แสดงว่าการค้าขายใช้เงินสกุลจีน ทำให้เห็นความเชื่อมโยงว่าสุดท้ายก็มีการส่งออกไปที่จีน ส่วนตัวเลขกากแคดเมียมที่เหลือประมาณ 1,000 ตัน ขณะนี้ใกล้เคียงแล้ว หรืออาจจะครบแล้ว แต่ก็ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนเพราะก็อยู่ที่การขายซื้อทั้งหมด เนื่องจากได้กำหนดราคาขายที่ตันละ 8,250 บาท เมื่อมีการขายจึงต้องชั่งใหม่ทั้งหมด

พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวว่า ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐส่วนไหนช่วยเหลือหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนเช่นกัน รวมถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตตั้งแต่การขนย้ายจากจังหวัดตาก มาจังหวัดสมุทรสาคร จะไม่มีเจ้าหน้าที่รับรู้เลยหรือไม่นั้น ก็อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image