สภากทม.เดือด! ส.ก.รุมยำ จี้แก้ ‘ดับเพลิง’ ปธ.ประกาศถกใหญ่พุธหน้า 24 เม.ย.

สภากทม.เดือด! ส.ก.รุมยำเร่งดันแก้ ‘ปัญหาดับเพลิง’ ขาดแคลน ปธ.สภาบรรจุญัตติ เปิดถกใหญ่พุธหน้า 24 เม.ย.

เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่อาคารไอราวัฒพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สำหรับประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 3) ประจำปีพุทธศักราช 2567 โดยมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) คณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

ในตอนหนึ่ง นายกิตติพงศ์ รวยฟูพันธ์ ส.ก.เขตทุ่งครุ พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่อง ปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์และความพร้อม ในฐานะตัวแทนของประชาชนกรุงเทพมหานคร เนื่องจากปัญหานี้น่าจะเกิดขึ้นครบทั้ง 50 เขต

นายกิตติพงศ์กล่าว่า เขตทุ่งครุมีพื้นที่ประมาณ 30 ตร.กม. แบ่งเป็น 2 แขวง ซึ่งทางทิศเหนือก็จะเป็นแขวงบางมด ยังไม่มีสถานีดับเพลิงอยู่ ส่วนทางทิศใต้ติดกับ จ.สมุทรปราการ เป็นแขวงทุ่งครุ ก็มีสถานีดับเพลิง 1 แห่ง อยู่ใกล้กับบริเวณสำนักเขตทุ่งครุ เรียกว่า แทบจะสุดริมชายขอบของทุ่งครุ

Advertisement

“ปัญหาของสถานีดับเพลิงทุ่งครุ พอมันอยู่ทางทิศใต้ แทบจะริมตะเข็บชายแดนของ กทม. เวลาจะไปดับเพลิงที่ไหน ก็ค่อนข้างจะลำบากอยู่เหมือนกัน ถนนประชาอุทิศเป็นหนึ่งในถนนที่รถติดตลอดกาล ตั้งแต่ตี 5 เกือบ 24 ชั่วโมงแล้วกัน มีแค่เพียงช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนที่รถไม่ติด

คราวนี้สิ่งที่เกิดขึ้นเวลาเกิดเพลิงไหม้ พ่อแม่พี่น้องที่อยู่แขวงบางมด ให้ทำใจเลยนะว่ารถดับเพลิงหรืออะไรมา ก็จะเป็นแค่เจ้าหน้าที่อาสาที่จะไปถึงก่อน เพราะรถติดก็เป็นประเด็นหลักในทุ่งครุเลย หลายคนเห็นภาพอาจจะตกใจนึกว่าเป็นสาทร แต่นี่ คือ ประชาอุทิศ” นายกิตติพงศ์ชี้

Advertisement

นายกิตติพงศ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่เขาก็ฝากมาบอกว่า เวลาที่เขาจะออกไปรบ มันก็ต้องมีอาวุธ แล้วฝ่ายบริหารมีอะไรให้เขาบ้าง อย่างรถบรรทุกน้ำ 5,000 ลิตร ใช้ไปซ่อมไป ตนคุยเมื่อตอนที่เตรียมกระทู้นี้ก่อนปิดสงกรานต์ ก็คือ เสียอยู่ ไม่แน่ใจว่าพอใกล้จะอภิปรายแล้วจะซ่อมเสร็จแล้วหรือไม่ รถยกเสียก็อยู่ ส่วนรถบรรทุกน้ำขนาด 1,000 ลิตร ก็ยังซ่อมอยู่ที่กองช่างของ กทม.

“ไม่รวมว่าเขตของเราไม่มีรถกระเช้า เวลาเราไปลงพื้นที่เห็นชาวบ้านร้องเรียนให้ไปจับงู กลายเป็นเจ้าหน้าที่ต้องเอารถกระบะ หรือมอไซค์ส่วนตัว ไปช่วยประชาชน ทั้งที่ความจริงเขาเป็นลูกจ้างของ กทม. ทำไมเขาต้องใช้ทรัพยากรส่วนตัวไปดูแลประชาชนด้วย” นายกิตติพงศ์เผย

นายกิตติพงศ์กล่าวว่า เมื่อได้คุยกับสภาของฟุกุโอกะ เขาเคยบริจาครถมาให้เรา ก็เลยถามว่าสภาพรถตอนนี้เป็นอย่างไร เจ้าหน้าที่ก็บอกว่ารถทั้งหลายทั้งปวงที่ได้รับบริจาคมาก็หมดสภาพแล้ว บางคันก็มียืมไปอยู่เขตอื่นบ้าง เราก็มีน้ำใจกัน แต่บางทียืมไปแล้วก็ไม่ได้รับกลับคืนบ้าง ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม

นายกิตติพงศ์กล่าวอีกว่า นอกจากเรื่องอุปกรณ์ที่จะส่งนักรบออกไปรบแล้ว แต่ก็ไม่มีเครืองมืออกไปสู้ เหมือนไปสู้ด้วยมือเปล่า แล้วชีวิตความเป็นอยู่ของเขา ปัจจุบันบ้านพักมีจำนวน 16 ห้อง ในขณะที่กำลังพลมีถึง 46 อัตรา ก็ต้องมีอีก 30 คน ที่ต้องออกไปเช่าที่อยู่ข้างนอก

“แน่นอนว่าทุ่งครุ โชคดีที่มีแฟลต กทม.ที่ประชาอุทิศ 90 และประชาอุทิศ 76 แต่จากที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ เขาก็บอกว่าจะต้องไปสู้ ขับเคี่ยวกัน เพราะมันไม่ได้มีแค่สถานีดับเพลิง ที่ต้องการจะใช้ออกพัก ก็ยังมีหน่วยงานอื่นอีก รวมถึงแฟลตของ กทม.ก็มีตึกหนึ่งที่หมดสภาพแล้ว ท่านผู้ว่าฯตอนนั้นไปที่แฟลตที่ กทม.ก็จะคงจะทราบอยู่ว่า แฟลตมันมีรอยร้าว ก็เลยปิดการใช้งาน

เจ้าหน้าที่ 30 ท่านนี้ ก็ต้องไปสู้รบปรบมือกับเจ้าหน้าที่อื่นๆของ กทม. แต่บางท่านที่สู้รบไม่สำเร็จ ก็ต้องออกไปเช้าห้องข้างนอกอยู่ บางคนเป็นเจ้าหน้าที่ที่มาจากต่างจังหวัด ไม่ว่ารอบรรจุอยู่ ก็ต้องออกตังค์เช่าห้องเองตามสภาพหรืออะไรก็แล้วแต่ ปัญหามันคือทรุดโทรมและไม่เพียงพอ” นายกิตติพงศ์ชี้

นายกิตติพงศ์กล่าวว่า คนเหล่านี้อาชีพเขาต้องไปเสี่ยงภัยดับเพลิง ถ้าร่างกายไม่พร้อมพักผ่อนไม่เพียงพอ กลางคืนแทนที่จะได้อยู่ในสถานีดับเพลิง ต้องไปอยู่ข้างนอก พอกลางคืนจากจุดหนึ่งไปถึงอีกจุดหนึ่ง แทนที่จะได้ขึ้นรถของ กทม.มันก็ไม่สะดวก

“วันนี้ถ้าจะเปรียบเทียบก็ไม่ใช่แค่ทุ่งครุ ผมเองก็มีโอกาสได้คุยกับพี่น้อง ส.ก.เขตอื่นๆ สภาพก็ไม่ต่างกัน ถ้าจะพูดแบบไม่เกรงใจ คือ พี่น้องที่อาสาบางครั้งเขาก็ดูถูกดูแคลนว่า โอ้ย! อุปกรณ์เครื่องหาบหามพวกนี้ สำนักงานดับเพลิงยังสู้ที่พวกผมหากันเองไม่ได้เลย ของเยอะกว่า เจ๋งกว่า ไวกว่า เพราะรถเราบางทีสตาร์ตติดบ้าง ไม่ติดบ้าง วันนี้ก็เหมือนผู้ป่วยที่เข้าขั้นวิกฤต นายกิตติพงศ์เผย

นายกิตติพงศ์กล่าวว่า ตนขอมัดรวมตั้งคำถามถึงสถานที่ตั้งสำนักงานดับเพลิงทุ่งครุ และรวมถึงอาคารที่พัก อุปกรณ์ดับเพลิง รถดับเพลิง ของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบันที่อยู่ในแขวงทุ่งครุ จะมีการปรับปรุงแก้ไขและผลักดันให้ดียิ่งขึ้น หรือจะมีการก่อสร้างสถานนีดับเพลิงย่อยในบางจุดหรือไม่

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ กล่าวว่า เรื่องดับเพลิงก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นเรื่องหลักด้านความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน เราก็มีการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ส่วนรายละเอียดขออนุญาตให้ น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการ ผู้รับผิดชอบสำนักงานป้องกันปราบปรามและบรรเทาสาธารณภัย ชี้แจงในรายละเอียด

นางสาวทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ กล่าวว่า ขอตอบเป็น 3 ประเด็น ประเด็นแรก เรื่องของรถที่ต้องมีรถตามมาตรฐานอยู่ที่สถานีดับเพลิง ซึ่งรถมาตรฐานที่เป็นรถน้ำและรถบันไดมีกำหนดซ่อมให้แล้วเสร็จ ในเดือนพฤษภาคม 2567 ทางผู้บริหารก็พยายามเร่งรัดอย่างเต็ม ที่จะให้เสร็จตามกำหนดให้ได้

“ขณะนี้เราใช้ตัวรถกับเพลิงของราชบูรณะ จอมทอง และบางขุนเทียน สนับสนุนในกรณีที่รถหลัก ปกแล้วสถานีดับเพลิงจะมีรถหลักมาตรฐานอยู่แล้ว 2 คัน ในทุกแบบมาตรฐาน 03 04 05 06 07 ในขณะเดียวกันรถขนน้ำ 10,000 ลิตร ใช้เงินงบประมาณปี 2567 ในการส่งซื้อ ตอนนี้อยู่ในกระบวนการคาดว่าจะได้ในเดือนสิงหาคม 67 ไม่น่าเกินกันยายน ส่วนรถน้ำ 6,000 ลิตร รถกระบะ ตัวรถดับเพลิงใหม่อยู่ในตัวงบประมาณปี 2568 เดี๋ยวก็จะเร่งรัดให้สามารถใช้รถดับเพลิงเหล่านี้ ได้ในสถานีดับเพลิงแบบมาตรฐาน ” น.ส.ทวิดาชี้แจง

น.ส.ทวิดากล่าวว่า ส่วนเรื่องของที่พักขณะที่สำนักงานป้องกันปราบปรามและบรรเทาสาธารณภัย ได้พิจารณาให้พื้นที่ด้านข้าง ซึ่งสามารถให้สร้างอาคารที่พักขึ้นเพิ่มเติมได้ กำลังศึกษาพื้นที่และรูปแบบที่จะลง ซึ่งเป็นแบบมาตรฐาน เพราะท่านผู้ว่าฯได้แต่งตั้งคณะกรรมการกายภาพและทรัพยากร ทางด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่พักอาศัยของเจ้าพนักงานดับเพลิงในทุกเขต ซึ่งแผนของเขตทุ่งครุอยู่ในแผนปี 2569 ที่จะพิจารณาทำที่พักเพิ่มเติมให้ในพื้นที่ข้างเคียง

น.ส.ทวิดากล่าวทิ้งท้ายว่า ส่วนเรื่องเพิ่มสถานีดับเพลิงได้คุยกับ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯอยู่ เพราะว่าเรามีการปรับมาสเตอร์ แพลน ในการใช้พื้นที่บางมดอยู่ในด้านบน ซึ่งจะมีมาสเตอร์ แพลน ในการทำศูนย์ฝึกอาชีพ และพื้นที่ที่เราจะใช้ในการก่อสร้างพื้นที่โรงพยาบาลด้วย ก็จะขออนุญาตรับเรื่องนี้ไปศึกษาหาพื้นที่เพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถปรับตัวมาสเตอร์ แพลน ในการพื้นที่ได้ และจะรายงานให้ทางสภาได้ทราบกันต่อไป

ด้าน นายกิตติพงศ์ ส.ก.เขตทุ่งครุ ตั้งคำถามต่ออีกว่า หากเจ้าอาวาสและวัดหลวงพ่อโอภาสีรวมถึงผู้ใจบุญร่วมบริจาคที่ดินเพื่อให้เป็นสาธารณประโยชน์ต่อหน่วยงานของ กทม. ซึ่งอยู่ในแขวงบางมด กทม.จะสามารถผลักดัน งบประมาณมาสร้าง สดพ.บางมดได้หรือไม่

นางสาวทวิดา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ กล่าวว่า ขอจะรับไปพิจารณา เพราะถ้าดูจากตำแหน่งน่าจะเป็นพื้นที่สามารถบริหารจัดการได้แทนที่จราจรติดขัดของทุ่งครุเดิมได้ดีกว่า แต่กระนั้นการศึกษามาสเตอร์ แพลน ซึ่งเราเจาะจงว่าจะใช้พื้นที่โรงพยาบาล ซึ่งอยู่ด้านตอนทางเหนือ อาจจะใกล้กับกับอีก 3 เขต ที่มีสถานีที่อยู่ใกล้กันแล้วอีกนิดหนึ่ง

“ขออนุญาตรับไปศึกษา เรื่องของระยะและการบริหารจัดการพื้นที่ ในขณะเดียวกันก็ขอรับไปศึกษาด้วยว่า มันสามารถเป็นสถานีย่อย หรือสถานีหลักได้เหมาะสมกว่ากัน” นางสาวทวิดากล่าว

ด้าน นายกิตติพงศ์ ส.ก.เขตทุ่งครุ ตั้งคำถามต่อไปว่า จุดติดตั้งประปาหัวแดงที่ใช้ดับเพลิง หลายจุดเคยมีแต่พอปรับปรุงถนนก็หายไป บางจุดก็อันตรายขอใหม่ก็ยาก ประชาชนสอบถามว่าจะสามารถประสานมาติดตั้งไว้เหมือนเดิม หรือเพิ่มเติมในบางจุดที่เข้าไม่ถึงได้หรือไม่ และทาง กทม.จะทำอย่างไรให้การขอหัวแดงใหม่ ง่ายกว่าเดิม

นางสาวทวิดา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ กล่าวว่า เมื่อเดือนเมษายน 2566 เราได้ประสานกับการประปานครหลวงในเรื่องประปาหัวแดงแล้วนั้น ทางการประปานครหลวงกับเราใช้แผนที่ประปาหัวแดงอันเดียวกันอยู่ ซึ่งเป็นการซิงก์กันระหว่าง กทม.กับการประปาในการติดตั้ง

“ปัจจุบันนี้ทั้ง กทม.มีการติดตั้งประปาหัวแดงที่ใช้ได้ สถานะเป็นปกติ ตรวจสอบเมื่อเดือนเมษานี้เอง 37,000 กว่าจุด โดยเขตทุ่งครุเอง มีประปาหัวแดงที่ติดตั้งแล้วและใช้ได้ 484 จุด มีจุดใหม่ที่รอติดตั้งอีก 5 จุด ตามที่เราทำการสำรวจเมื่อกลางปี 2566 การสำรวจของเราเป็นการสำรวจร่วมกันของผู้อำนายการเขต ประธานชุมชน แล้วก็การประชานครหลวง และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกัน

กำหนดติดตั้งเพิ่มเติม 258 จุด ทีนี้ตามกำหนดการเดิมควรจะติดตั้งได้แล้วตั้งแต่ปลายปี ถึงต้นปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากเรามีปัญญาเรื่องขอบัญญัติของ กทม.อยู่ 1 เรื่อง คือ การใช้เงินอุดหนุนจึงทำให้ล่าช้าออกไป คาดว่าการขอเสนอแก้ข้อบัญญัติเสร็จ ภายในกันยายนนี้น่าจะติดตั้งประปาหัวแดงเพิ่มได้” นางสาวทวิดาเผย

นางสาวทวิดากล่าวว่า หากถามถึงกระบวนการที่ง่ายกว่านี้ ด้วยกระบวนการที่ง่ายกว่านี้ในทุกงวดที่เราทำการตรวจสอบได้หรือไม่ ต้องบอกว่าในกรณีที่เราสามารถเสนอของบประมาณในการที่จะให้การประปาทำการสนับสนุนได้ งวดในการตรวจสอบท่อประปาที่เดินเข้าไปในพื้นที่บ้านเรือนได้แค่ไหน และสามารถทดแทนจุดที่หายไปได้เลยไหม ก็น่าจะทำได้อย่างไม่ล่าช้า ก็ขอรับไปปรับปรุงตัวกระบวนการที่จะทำให้เร็วขึ้น

“ส่วนตอบคำถามที่ว่า อันที่เคยมีอยู่แล้วหายไป เนื่องจากไม่ได้ทราบจุดอันนี้ อนาตตรวจสอบนิดหนึ่งว่า จุดที่ท่านหมายถึงในเขตทุ่งครุ เป็นจุดเดียวกันกับ 5 จุด ที่เรากำลังจะติดตั้งเพิ่มหรือเปล่า แล้วเราจะส่งข้อมูลให้ท่านสมาชิกต่อไป” นางสาวทวิดากล่าวทิ้งท้าย

ต่อมา นายพีรพล กนกวลัย ส.ก.เขตพญาไท พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นใช้สิทธิตามระเบียบข้อบังคับการประชุมข้อ 39 (1) ขอปรึษาประธานสภาเป็นการด่วน เรื่อง กระทู้ดังกล่าวเกี่ยวพันกับหลายพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต แต่กระทู้นี้โฟกัสที่ทุ่งครุอย่างเดียว

 

นายพีรพลกล่าวว่า ตนขอเสนอญัติด้วยด้วยวาจาว่า ปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์การดับเพลิง ในการปฏิบัติภารกิจของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตอบสนองต่อพี่น้องประชาชนหรือไม่ เป็นญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อให้สมาชิกเขตอื่นได้ร่วมอภิปรายด้วย

จากนั้นได้มีการขอให้มีการยกมือเพื่อรับรองญัตติดังกล่าวจากสมาชิกสภา กทม.จำนวนมาก

ขณะที่ นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ไม่ทราบว่าสมาชิกพร้อมอธิปรายกันหมดหรือไม่ ข้อมูลครบไหม ถ้าครบตนก็จะบรรจุให้ แต่ถ้าเกิดว่ายังไม่ครบทุกเขตที่จะร่วมอภิปราย ขอเป็นการบรรจุไว้ในการประชุมวันพุธหน้าได้หรือไม่

ด้าน นายพีรพล ส.ก.เขตพญาไท กล่าวว่า วันนี้ตนขอเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา หากหลายท่านไม่พร้อมขอให้ท่านบรรจุก่อน แล้วค่อยเลื่อนเป็นการประชุมครั้งหน้า

ต่อมา นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร หรือเฮียล้าน ส.ก.เขตจอมทอง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับญัตติด้วยวาจาของนายพีรพล กนกวลัย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในการที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ยังคงขาดอุปกรณ์และเครื่องมือในการปฏิบัติหน้าที่ แก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน

“ขอชื่นชมท่านกิตติพงศ์ รวยฟูพันธ์ ได้จุดประเด็นในเรื่องนี้ ที่ได้รับการร้องเรียน ร้องขอจากข้าราชการ ซึ่งไม่รู้จะไประบายให้ใครฟัง ระบายให้กับผู้บริหารก็ไม่รู้จะฟังจริงหรือเปล่า บางท่านก็ได้แค่พูดแต่ไม่ทำอย่างนี้เป็นต้น ซึ่งการตั้งกระทู้ถาม 2-3 คำถาม ได้เป็นประโยชน์และมีเนื้อหาสำคัญว่า มีการตั้งงบประมาณอย่างเพียงพอหรือไม่ หลายสิ่งหลายอย่างที่เพื่อนสมาชิกก็อยากจะอภิปราย

ทั้งนี้ทั้งนั้น อยากจะฝากท่านประธานว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่อยากให้ ไปบรรจุเลื่อนเป็นครั้งหน้า พุธหน้า เพราะทุกคนจะได้ไปทำการบ้านมา เพื่อให้ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ได้ทราบข้อมูลที่แท้จริง และเราไปแก้ปัญหาที่แท้จริงของปัญหา แก้ไขความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้ดีอย่างมีประสิทธิภาพ” นายสุทธิชัยชี้

 

นายวิรัตน์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการสอบถามเพื่อนสมาชิกวันนี้ ยังไม่พร้อมที่จะอภิปรายกัน แต่มีปัญหาเกิดขึ้นจริง หากอภิปรายก็จะได้เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายผู้บริหารด้วย ซึ่งผมก็จะให้สมาชิกรวบรวมข้อมูล และจะบรรจุญัตติที่นายพีรพล กนกวลัย เสนอในการประชุมวันพุธหน้า (24 เมษายน) ถือว่าระเบียบ 39 (1) ของท่านยังไม่ด่วนที่สุด

จากนั้น นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตามจริงแล้วการเสนอบรรจุญัตติด่วนด้วยวาจา ของนายพีรพล กนกวลัย เมื่อมีสมาชิกรับรองแล้ว ประธานควรจะบรรจุให้ แล้วการที่เลื่อนไปคราวหน้าก็ยังเป็นเรื่องที่โอเคอยู่ แต่ถ้าท่านให้เลื่อนไปคราวหน้า นายพีรพลต้องยื่นเป็นลายลักษณ์อักษรเข้ามา ไม่แน่ใจว่านายพีรพลจะยื่นเข้ามาในคราวหน้าหรือไม่อย่างไร

“ถ้าท่านพีรพลจะยืนยันว่าจะบรรจุด้วยวาจา ท่านก็ควรบรรจุให้ก่อน แล้วก็เลื่อนไปประชุมคราวหน้ามันก็ไม่ต่างอะไรกับวิธีปฏิบัติ” นายนภาพลชี้

ต่อมา นายพีรพล ส.ก.เขตพญาไท กล่าวว่า ตนได้เสนอญัตติด้วยวาจา ซึ่งตนพร้อมที่จะอภิปรายอยู่แล้ว ส่วนท่านอื่นพร้อมอภิปายหรือไม่ ก็ไม่ได้สำคัญว่าจะอภิปรายหรือเปล่า แต่ตอนเพียงแค่เสนอเป็นภาพรวม ส่วนพอถึงเวลาแล้วเวลาไม่พอ ท่านจะเลื่อนไปครั้งหน้าอะไรหรือไม่นั่นเป็นอนาคต ท่านต้องบรรจุให้ตนก่อน

 

จากนั้น นายวิรัตน์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า อำนาจในการบรรจุญัตติเป็นของประธานสภาที่จะต้องพิจารณา ตนถือว่าญัตติของท่านมีความสำคัญ ตนเรียนแล้วว่าท่านใช้ 39 (1) เป็นเรื่องด่วนและก็เรื่องสำคัญที่สุด และเพื่อนสมาชิกหลายท่านก็อยากอภิปราย แต่ข้อมูลยังไม่ครบ

“รับญัตติของท่านและบรรจุให้ในวันพุธหน้า ท่านพร้อมอภิปรายแล้ว ก็ให้อภิปรายวันพุธหน้า เพื่อนสมาชิกจะได้อภิปรายทีเดียว ไม่เช่นนั้นแล้วหากวันนี้ท่านอภิปรายคนเดียว แต่สมาชิกท่านอื่นไม่พร้อมอีก ก็จะมีปัญหาว่าหลายท่านก็อยากจะอภิปราย แล้วก็จะได้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ผมรับญัตติของท่านแต่บรรจุกให้ในวันพุธหน้า การประชุมครั้งหน้า” นายวิรัตน์กล่าวทิ้งท้าย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image