ชาวสวนยางใต้ป่วน’พยัคฆ์ไพร’ หลังลงพื้นที่แจงไม่ให้เช่าพื้นที่นายทุนปลูกยาง ตะลึงนายทุนลอบปลูกขิงกลางป่าสงวนฯ

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า นายจงคล้าย วรพงศธร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการปลูกป่า และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ลงพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปื่อย-ภูขี้เถ้า ซึ่งเป็นป่าลุ่มน้ำเอ 1 ต้นน้ำป่าสัก เพื่อจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำป่าสัก แก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่เขาสูงชัน จ.พิษณุโลก และ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของป่าสงวนฯป่าภูเปื่อย-ภูขี้เถ้า โดยจุดแรกนายอรรถพลได้เรียกประชุมชาวบ้านที่ ม.ซำบุ่น ต.ศิลา อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ โดยมีชาวบ้านเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงประมาณ 50 คน ทั้งนี้ ปรากฏว่าก่อนการชี้แจงจะเริ่มขึ้นได้มีกลุ่มชาวบ้านนำโดยนายเอื้อน ชูขันธ์ ชาว จ.นครศรีธรรมราช นำชาวบ้านจำนวน 7 คน ซึ่งเป็นคนจังหวัดเดียวกันทั้งหมดมาร้องเรียน โดยอ้างว่าได้รับผลกระทบจากการถูกยึดพื้นที่ของชุดพยัคฆ์ไพร

โดยนายเอื้อนกล่าวว่า ได้มาหาซื้อที่ดินเพื่อปลูกยางพาราได้ประมาณ 2-3 ปีแล้ว แต่ถูกชุดพยัคฆ์ไพรเข้าตรวจยึดจับกุม จึงอยากขอความเป็นธรรม แม้ตนจะเป็นคนนครศรีธรรมราชก็ถือว่าเป็นคนไทยเหมือนกัน ไม่อยากให้มีการเลือกปฏิบัติในการจับกุม อย่างไรก็ตาม นายชีวะภาพได้ชี้แจงว่า สาเหตุที่มีการจับกุมเนื่องจากชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯป่าภูเปื่อย-ภูขี้เถ้า ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำป่าสัก และจากการตรวจสอบ ชาวบ้านทั้งหมดยังมีการบุกรุกพื้นที่ป่าใหม่ด้วย นอกจากนี้ ยังไม่ได้มีรกรากเป็นคนในพื้นที่เดิม ทั้งยังมีพื้นที่ทำกินอยู่ในจังหวัดเก่าด้วย จึงถือว่าไม่ใช่คนยากไร้ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ปฏิบัติตามมติ ครม. 30 มิถุนายน 2541 และคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 ยืนยันว่าไม่มี 2 มาตรฐานหรือเลือกปฏิบัติอย่างแน่นอน

ขณะที่นายอรรถพล ได้กล่าวชี้แจงกับชาวบ้าน ม.ซำบุ่น ซึ่งแต่เดิมต้องเช่าที่ดินทำกินจากกลุ่มนายทุน ตั้งแต่ 5-50 ไร่ ในพื้นที่ป่าสงวนฯ ป่าภูเปื่อย-ภูขี้เถ้าทั้งหมด 639 ไร่ จำนวน 20 ครอบครัว ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นของนายทุนที่ไปกว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านเพื่อปลูกยางพารา และแบ่งให้ชาวบ้านเช่าไร่ละ 300 บาทต่อปี ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมาว่า จากนี้ชาวบ้านไม่ต้องเช่าพื้นที่จากนายทุน โดยกรมป่าไม้จะจัดสรรที่ดินให้อย่างยุติธรรม ภายใต้เกณฑ์ของราษฎรผู้ยากไร้ คือครอบครัวละไม่เกิน 25 ไร่ และต้องมีถิ่นฐานดั้งเดิมอยู่ในพื้นที่ โดยกรมป่าไม้จะมาส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจและปลูกป่าไปพร้อมกัน แต่ไม่ให้ปลูกยางพารา

จากนั้นทั้งคณะได้เดินทางไปยังจุดศูนย์กลางของป่าสงวนฯป่าภูเปื่อย-ภูขี้เถ้า ซึ่งเป็นพื้นที่เขาหัวโล้นที่เคยมีการนำภาพไปแชร์ในโลกโซเชียลจำนวนมาก โดยป่าสงวนฯดังกล่าวอยู่ติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จ.เพชรบูรณ์ พบบ้านพักคนงานซึ่งอยู่ในสภาพรกร้าง ในขณะที่บริเวณใกล้เคียงกันพบมีการปลูกขิง จำนวน 60 ไร่ โดยด้านหน้าแปลงมีการปลูกต้นไม้ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ โดยนายชีวภาพกล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ตรวจยึดจับกุมเมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมาเนื้อที่ 1.2 หมื่นไร่ ดำเนินคดีแล้ว 5 คดี แบ่งเป็นกลุ่มนายทุนจากภาคใต้ 3 คดี นายทุนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งหนึ่ง 2 คดี ซึ่งขณะนี้ถูกดำเนินการตาม 44 ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้มีกลุ่มนายทุนกลับเข้ามาทำกิน โดยจ้างชาวบ้านมาปลูกขิง จำนวน 60 ไร่ ซึ่งตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำบันทึกจับกุมไว้แล้ว

Advertisement

ต่อมาได้มีการเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณบ้านของนายธีรยุทธ์ ทองท่ายาน ซึ่งอยู่ในกลุ่มชาวบ้าน จ.นครศรีธรรมราช ที่มาขอความเป็นธรรมหลังถูกชุดพยัคฆ์ไพรจับกุม เมื่อไปถึงพื้นที่พบต้นยางอายุ 3-4 ปี ปลูกเต็มพื้นที่เกือบ 7 ไร่ และพบร่องรอยการเปิดพื้นที่ป่าธรรมชาติเพื่อปลูกยางพาราชุดใหม่ รวมทั้งมีการกานต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ยืนต้นตาย ขณะที่บริเวณบ้านได้มีการปิดป้ายโปสเตอร์ขนาดใหญ่ว่ารับซื้อและปลูกยางพารา และสอนวิธีทำสวนยางติดอยู่กับผนังบ้าน โดยนายชีวะภาพกล่าวว่า แปลงของนายธีรยุทธ์ มีความผิดชัดเจน เพราะจากการพิสูจน์หลักฐานมีการเปิดป่าใหม่ และยังมีพื้นที่ใกล้เคียงอีกแปลงจำนวนหลายสิบไร่ ที่สำคัญไม่ใช่คนในพื้นที่ดั้งเดิม ยังมีที่ทำกินอยู่ในภูมิลำเนาด้วย จึงไม่เข้าข่ายคนจนหรือเกษตรกรผู้ยากไร้

ทั้งนี้ นายอรรถพลกล่าวว่า กรมป่าไม้จะเข้ามาจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำป่าสัก เพื่อฟื้นฟูเขาหัวโล้น โดยจะส่งเจ้าหน้าที่มาประจำที่ฐานปฏิบัติการ เพื่อจัดทำแนวเขตที่ดินให้ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับ บังคับใช้กฎหมายต่อนายทุนผู้บุกรุก ผ่อนผันจัดที่ดินให้กับผู้ยากไร้ แบ่งเขตพื้นที่โซนนิ่ง และป้องกันรักษาพื้นที่ที่ถูกบุกรุก เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าไม้และพื้นที่สีเขียว โดยกรมป่าไม้จะดำเนินการทั้งหมด 88 เป้าหมาย ใน 13 จังหวัด โดยในส่วนของ จ.พิษณุโลกมี 3 เป้าหมาย และเพชรบูรณ์ 3 เป้าหมาย

S__8716402

Advertisement

S__8716404

S__8716405

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image