คพ.ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีภาชี หนุนตอบโต้เหตุฉุกเฉิน

คพ. สนับสนุนตอบโต้เหตุฉุกเฉิน – ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี อำเภอภาชี

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า จากการเกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี ซึ่งเป็นของกลางอยู่ระหว่างดำเนินคดี ในพื้นที่ ม.2 ตำบลภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เวลา 18.00 น.

คพ. ได้มอบหมายทีมตรวจสอบเหตุฉุกเฉินสารเคมีจากส่วนกลาง และหน่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อมที่ 6 (สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 6 นนทบุรี) ลงพื้นที่สนับสนุนตอบโต้เหตุฉุกเฉินอุบัติภัยสารเคมี ปฏิบัติงานร่วมกับ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเข้าตรวจสอบคุณภาพอากาศในชุมชนโดยรอบพื้นที่โกดังเก็บสารเคมี โดยเฉพาะพื้นที่ ด้านท้ายลมและพื้นที่อ่อนไหว เช่น สถานพยาบาลและชุมชนหนาแน่น เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพ

Advertisement

นางสาวปรีญาพร กล่าวว่า จากการรายงานสถานการณ์ และผลการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม จนถึงวันนี้
( 2 พฤษภาคม 2567) สรุปดังนี้

1. โกดังดังกล่าว มีอาคารเก็บสารเคมี 4,000 ตัน จำนวน 5 หลัง โดยอาคาร 4 และ 5 เป็นอาคารที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ปัจจุบันสามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้แล้ว แต่ยังพบมีกลุ่มควันสารเคมีเล็กน้อยและมีกลิ่นเหม็นสารเคมี และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงเฝ้าระวังในพื้นที่

Advertisement

2. คพ.ได้ติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศแบบฉุกเฉินด้วยเครื่องมือตรวจวัดไอระเหยสารเคมีในภาคสนาม (FTIR) บริเวณชุมชนโดยรอบตั้งแต่เมื่อคืน พบสารคลอรีนและสารแอมโมเนีย ซึ่งมีความเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน และได้รายงานข้อมูลต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

3. โรงพยาบาลอำเภอภาชี ประกาศงดให้บริการ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ใต้ลมทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก และเทศบาลตำบลภาชีประกาศให้ประชาชนในรัศมีประมาณ 200 เมตร อพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่วัดโคกม่วงซึ่งเทศบาลตำบลภาชี ได้จัดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 1 พฤษภาคม 2567

4. เมื่อเวลาประมาณ 10.00 และ 15.30 น. คพ. ได้ตรวจสอบคุณภาพอากาศบริเวณโดยรอบโกดังเกิดเหตุ รัศมี 100 เมตร ถึง 2 กิโลเมตร ทั้งหมด 7 จุด บริเวณชุมชนโดยรอบ เช่น โรงเรียน ตลาด มัสยิด และบ้านเรือนประชาชน พบว่าผลการตรวจก๊าซไอระเหยต่ำกว่าขีดจำกัดการรับสัมผัสทางการหายใจเฉียบพลัน ระดับที่ 1 และบริเวณวัดโคกม่วง ซึ่งใช้เป็นศูนย์อพยพประชาชน และอยู่ทางด้านทิศเหนือลม ไม่ได้รับกลิ่นและตรวจไม่พบไอระเหยสารเคมี

5. หลังการระงับเหตุเพลิงไหม้พบมีน้ำปนเปื้อนกรดค่อนข้างสูง จำนวนมากไหลนองเต็มบริเวณพื้นที่
ด้านหลังโกดัง ซึ่งอยู่ติดกับคลองสามขวา (คลองชลประทาน) และที่ติดด้านหลังโรงงาน ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะไหลล้นออกสู่พื้นที่ด้านนอก คพ. ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างน้ำผิวดินบริเวณใกล้เคียงโกดังเก็บสารเคมีดังกล่าวซึ่งได้รับผลกระทบ จากสารที่ใช้ดับเพลิงและปนเปื้อนสารเคมีรั่วไหลออกสู่ภายนอก เพื่อประเมินการปนเปื้อนและให้ข้อเสนอแนะทางวิชาการ ในการจัดการที่เหมาะสมและบำบัดฟื้นฟูต่อไป

นางสาวปรีญาพร กล่าวว่า ทั้งนี้ คพ.จะยังคงเฝ้าระวังและติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศและน้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image