คุมเพลิงได้แล้ว ไฟไหม้ มาบตาพุดแทงค์ ผงะ เคยเกิดระเบิดมาก่อนปี 64 ดับ 3 ศพ

ไฟไหม้ มาบตาพุดแทงค์ ลามถึงถัง 2 แล้ว จนท.เร่งคุมในวงจำกัด ผงะ เคยเกิดเหตุเมื่อปี 64

เมื่อเวลา 15.30 . วันที่ 9 พฤษภาคม นายอัธยา นวลอุทัย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง ได้เปิดเผยถึงกรณีเพลิงไหม้ มาบตาพุดแทงค์ .ระยอง ว่า ขณะนี้ ไฟได้ลุกไหม้ลุกลามไปถังที่ 2 แล้ว

นอกจากนี้ยังมีถังขนาดเล็กที่อยู่รอบลุกลามไปด้วย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ เพื่อให้เพลิงอยู่ในวงจำกัด จะเห็นได้จากเปลวไฟเริ่มลดความรุนแรงลง แต่ก็ยังคงลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับถังที่ถูกไฟไหม้ เป็นถังสารโซลีน ที่มีความสูง 18 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เมตร บรรจุได้ 2,500 ลูกบาศก์เมตร ส่วนถังที่ 2 มีขนาดเท่ากันแต่เป็นสารคนละประเภทกัน ซึ่งลุกลามไหม้ไปแล้ว

Advertisement

สำหรับพนักงานโรงงานในพื้นที่ใกล้จุดไฟไหม้ ได้มีการอพยพพนักงาน รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่จุดเสี่ยงไปอยู่ที่โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ซึ่งอยู่ในจุดที่ปลอดภัย โดยทางสาธารณะจังหวัดระยอง ได้ส่งทีมแพทย์พยาบาลลงมาดูแลผู้ประสบภัยแล้ว

สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ ประกอบด้วย ผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายนพพร เรือนมา

ผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย
1.
นายณิชฌาน ติ๊บประสอน 2.โชคชัย ชูชุ่ม
3.
จักรลักษณ์ ถิ่นระแก้ว ส่วนอีกรายไม่ทราบชื่อ

Advertisement

สำหรับมาบตาพุดแทงค์ เคยเกิดเหตุถังระเบิดเมื่อปี 64 ตายไป 3 ศพ

เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 9 พ.ค. นายอัธยา นวลอุทัย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง ได้กล่าวว่า ขณะนี้ทีมดับเพลิงสามารถดับไฟได้แล้ว โดยใช้โฟมฉีดในการดับไฟ จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่ยังคงต้องฉีดโฟมหล่อเลี้ยงไว้ก่อน จนกว่าจะมั่นใจว่าไฟดับร้อยเปอร์เซ็นต์ สรุปแล้วไฟได้ไหม้ถังสารไปทั้งหมด 2 ถังใหญ่ และ พื้นที่โดยรอบเสียหายไปทั้งหมด

EMCC ได้แจ้งว่า สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ความรุนแรงมีแนวโน้มลดลง ไม่พบกลุ่มควันแล้ว

ส่วนที่โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ยังมีการอพยพพนักงานในพื้นที่เสี่ยงเข้าพักพิง โดยมีคนเข้ามาในศูนย์ชั่วคราวแล้วกว่า 400 คน โดยมีเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนคอยดูแล

ด้านบริษัทมาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด เตรียมแถลงข่าว พร้อมกับทางจังหวัด ที่ ศูนย์บัญชาการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและกระจายข่าว เทศบาลเมืองมาบตาพุด ในเวลา 18.00 น.วันนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image