วันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น. กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยมณฑลทหารบกที่ 32 ลำปาง นำโดย พ.ต.อำนาจ สูงศักดิ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์ดํารงธรรมจังหวัดลําปาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองลำปาง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 เข้าตรวจสอบที่ร้าน กม. 9 ค้าของเก่า ตั้งอยู่ที่ บ้านต้นมื่น หมู่ 14 ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าได้นำรถยนต์กระบะ ไปจำนำไว้ที่ร้านดังกล่าวจำนวน 60,000 บาท แต่ได้เงินเพียง 51,000 บาท โดยเจ้าของร้านระบุว่าได้หักดอกเบี้ยไป คิดเป็นร้อยละ 10 ต่อเดือน เป็นเงิน 6,000 บาท และค่าจอดอีก 3,000 บาท มีกำหนดระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งเมื่อถึงกำหนดตนไม่ได้ไปติดต่อไถ่ถอน ทางเจ้าของร้านได้นำรถของตนไปขายต่อยังแหล่งรับซื้อรถในตลาดมืดที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อพยายามให้เจ้าของนำรถคืน แต่เจ้าของร้านกลับบอกว่าขายต่อแล้ว และไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่ร้านค้าดังกล่าว พบนายพรชัย ไชยมงคล รับเป็นเจ้าของร้าน กม. 9 ค้าของเก่า เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้น พบรถยนต์ทั้งกระบะ และเก๋งยี่ห้อต่างๆ กว่า 10 คัน รวมถึงรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อต่างๆ อีกกว่า 20 คัน โดยสอบถามนายพรชัยให้การว่า ได้รับจํานํารถจากประชาชนทั่วไปจริง โดยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เป็นรถที่ถูกนำมาจำนำทั้งหมดและยังติดค้าง อยู่ในช่วงผ่อนชำระ ซึ่งหากผู้นำรถมาจำนำไม่มาไถ่ถอนตามกำหนดระยะเวลา หรือไม่มาต่อดอกจำนวนร้อยละ 10 ต่อเดือนตามกำหนด พร้อมทั้งค่าจ่ายในการจอดของแต่ละเดือน ก็จะนำรถขายส่งให้พ่อค้าในตลาดมืดที่ จ.เชียงใหม่ ทันที
ขณะที่การตรวจค้น ยังพบวิทยุสื่อสาร ยี่ห้อ icom จำนวน 1 เครื่อง ตรวจสอบไม่พบใบอนุญาต และยังพบอาวุธปืนยาวแบบไทยประดิษฐ์ (ปืนแก๊ป) จำนวน 2 กระบอก โดยนายพรชัยรับว่าเป็นของตนเอง อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายพรชัย ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหารับจํานํา โดยไม่มีใบอนุญาต, ยักยอกทรัพย์ของผู้อื่น, มีและใช้เครื่องวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืน (ไทยประดิษฐ์) พร้อมเตรียมขยายผลติดตามจับกุมผู้ที่รับซื้อรถจากนายพรชัย เพื่อติดตามรถของกลางทั้งหมดกลับมา และเพื่อขยายผลไปถึงกลุ่มขบวนการทั้งหมดต่อไป
ระหว่างในช่วงที่กำลังควบคุมตัว นายพรชัยได้โวยวายเสียงดังว่า ทำไมผู้ประกอบการรับจำนำรถเถื่อนรายอื่นๆ ถึงไม่ถูกเข้าค้นและจับกุม ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้ทำการสอบถาม และนายพรชัยนำไปตรวจค้น จึงเดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งใน บ้านต้นมื่น หมู่ 14 ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง โดยเปิดเป็นร้านค้าของเก่าชื่อ ลำดวนธุรกิจ โดยมีนางลำดวน ใจเดียว รับเป็นเจ้าของร้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว พร้อมเข้าตรวจค้นพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อต่างๆ อีก 12 คัน สอบถามเจ้าของร้านรับว่า เปิดรับจำนำรถเช่นกัน โดยไม่มีใบอนุญาต และทุกคันก็จะเสียดอกเบี้ยในการจำนำ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน จึงได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน
นอกจากนี้ นายพรชัยยังนำไปชี้จุดจับกุมที่บ้านอีกหลัง ในบ้านสามัคคี หมู่ 2 ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง โดยเปิดเป็นร้านค้าของเก่าชื่อร้านใจเดียวธุรกิจ โดยมีนายตาคำ ใจเดียว รับเป็นเจ้าของร้าน เมื่อตรวจค้นพบรถยนต์เก๋งและกระบะยี่ห้อต่างๆ 4 คัน รถจักรยานยนต์อีก 5 คัน ทำให้นายตาคำให้การรับว่า รถทั้งหมดรับจำนำไว้ โดยรถยนต์รับจำนำในราคาตั้งแต่ 30,000 ถึง 80,000 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์รับจำนำตั้งแต่คันละ 6,000 ถึง 15,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพ และความใหม่เก่าของแต่ละคัน โดยทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากันร้อยละ 10 ต่อเดือน ส่วนรถยนต์จะต้องเสียค่าจอดคันละ 3,000 บาททุกเดือน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน
