งามไส้! จับ ‘ผอ.-ครูเกษียณ’ ซื้อบริการด.ญ.อายุ 12 ‘เจ้าของรีสอร์ต’ เป็นนายหน้าจัดหา

งามไส้! จับ ‘ผอ.-ครูเกษียณ’ ซื้อบริการด.ญ.อายุ 12 ‘เจ้าของรีสอร์ต’ เป็นนายหน้าจัดหา

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 พฤษภาคม ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.3 บก.ปคม. พ.ต.ต.เกียรติบดินทร์ วงค์งาม สว.กก.3บก.ปคม. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ร่วมกันแถลงข่าวปฏิบัติการทลายล้างขบวนการค้ามนุษย์เด็กสาววัยใส จ.ขอนแก่น นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย

ประกอบด้วย 1.น.ส.วันทนานนท์ หรือติ๊ก อายุ 26 ปี ทำหน้าที่เป็นนายหน้าหรือแม่เล้า 2.นางดาวเรือง หรือเจ๊ดาว อายุ 58 ปี เจ้าของรีสอร์ตใน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น 3.นายสิทธิพร หรือหนึ่ง อายุ 58 ปี เจ้าของรีสอร์ตใน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น 4.นายพจน์ หรือแดง อายุ 58 ปี ผอ.โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น 5.นายพิชัย หรือเฮียหมี อายุ 69 ปี อดีตข้าราชการครูเกษียณ และช่วยเหลือเหยื่อเด็กหญิงวัย 12 ปี 1 คน และเด็กสาววัย 17 ปี 2 คน รวม 3 ราย

พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ ขยายผลมาจากการเข้าไปช่วยเหลือเด็ก อายุ 12 ปี จาก จ.ขอนแก่นที่ผู้ปกครองได้เข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณา จนสามารถจับกุม น.ส.วันทนานนท์ หรือติ๊ก อายุ 26 ปี ผู้ทำหน้าที่เป็นนายหน้า ต่อมาตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ได้ทำการสืบสวนขนายผลจนสามารถจับกุม นายสิทธิพร หรือหนึ่ง และนางดาวเรือง เจ้าของรีสอร์ต 2 แห่งในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งทำหน้าที่เป็นนายหน้าเช่นกัน และได้ช่วยเหลือผู้เสียหายเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี จำนวน 2 คน ที่ถูกบังคับให้ค้าประเวณี

Advertisement

จากการสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์มือถือของนายหน้าทั้ง 2 คน พบข้อมูลการซื้อบริการทางเพศเด็กอายุ 12 ปี จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาได้ 2 คน คือ นายพจน์ หรือแดง อายุ 58 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนชั้นประถมแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น และ นายพิชัย หรือเฮียหมี อดีตข้าราชการครูเกษียณ ในความผิดฐาน กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตนกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามโดยปราศจากเหตุอันสมควรภาคเด็กอายุยังไม่ไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร ชักจูงยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิดหรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก

เนื่องจากพบข้อมูลว่าผู้ต้องหา เคยซื้อบริการทางเพศกับเด็กมาแล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง และเป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนตัวเอง

พ.ต.ต.เกียรติบดินทร์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำในเบื้องต้นผู้เสียหายให้การว่า ตนมีความรู้สึกสนิทสนมกับ น.ส.ติ๊ก โดย น.ส.ติ๊กได้ใช้ประโยชน์จากความสนิทสนม ชักชวนให้มาทำงานในลักษณะนี้ โดยอ้างว่าหากมาทำงานด้วยจะได้รับค่าตอบแทน เพื่อนำไปซื้อสินค้าที่ต้องการ เมื่อเด็กหลงจะพาเด็กเป็นนายหน้าคอยส่งเด็กไปให้กับผู้ซื้อบริการที่ต้องการ ซึ่งค่าตัวเด็ก 1 คนจะอยู่ที่ราคา 1,200 บาท น.ส.ติ๊กจะหักค่าหัวคิวคนละ 400 บาทต่อการขายบริการ 1 ครั้ง

Advertisement

ด้าน นางปวีณา เปิดเผยว่า สำหรับเด็กที่ให้การช่วยเหลือทั้ง 3 คน ขณะนี้อยู่ในความคุ้มครองของบ้านเกร็ดตระการ เพื่อดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจ พร้อมทั้งยังได้ประสานการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อให้เด็กกลับไปศึกษาต่อ และจะดำเนินการเอาผิดทางวินัยกับผู้อำนวยการโรงเรียนที่ซื้อบริการ

อย่างไรก็ตามทางมูลนิธิขอบคุณ พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. และตำรวจ ปคม. สอบสวนกลาง ที่ประสานความช่วยเหลือร่วมกับมูลนิธิปวีณาฯ ด้วยดีเสมอมา ในการจับกุมขบวนการค้ามนุษย์เด็กหญิงครั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนัก สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนสาวไปถึงผู้ร่วมขบวนการและผู้ซื้อบริการเด็กหญิงมาดำเนินคดีได้สำเร็จ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image