ชาวบ้านไปเก็บหัวกระสุนปืนใหญ่ระเบิดตายสยอง 3 ศพ เจ็บ 2
เมื่อเวลา 13.30 นของวันที่ 21 ก.พ.59 พ.ต.ท.อำนาจ ประเทือง พงส.ร้อยเวร สภ.เมืองลพบุรี ได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ทหารของศูนย์การทหารปืนใหญ่ ว่ามีชาวบ้านไปเก็บเศษของกระสุนปืนใหญ่ที่ภายหลังจากการฝึกยิงของทหาร แล้วเก็บมาทุบเพื่อแยกชิ้นส่วน แต่ได้ระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 2 คน จึงแจ้งแพทย์จากโรงพยาบาลอานันทมหิดล พร้อมด้วยทหารศูนย์การทหารปืนใหญ่ รุดไปยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ เป็นเชิงเขา หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่การยิงปืน และสนามฝึก ของทหาร อยู่ห่างจากพื้นที่ราบประมาณ 4 กม. เจ้าหน้าที่ และ แพทย์ ต้องเดินเท้า และใช้รถจักรยานยนต์เข้าไปในที่เกิดเหตุ ถึงที่เกิดเหตุพบสภาพผู้เสียชีวิตนอนอยู่ 2 ศพ และเศษเนื้ออีก จำนวนหนึ่ง นับได้เสียชีวิตจำนวน 3 ศพ และรถจักรยานยนต์จอดอยู่กับศพ 1 คัน เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมศพทั้ง 3 ศพ ส่งโรงพยาบาลอานันทมหิดลลพบุรี
สำหรับผู้บาดเจ็บอีก 2 คนทราบชื่อภายหลังว่า ด.ญ.น้ำอ้อย อายุ 13 ปี ชาวม.7 ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี และนายสุรศักดิ์ ใจไมตรี อายุ 43 ปี ไม่ทราบบ้านเลขที่ คนลพบุรี บาดเจ็บอาการสาหัส รักษาตัวที่โรงพยาบาลอานันทมหิดล
สำหรับนางบัวสา ฉุยมานะ อายุ 37 ปี ชาวต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งไปยืนดูสภาพศพของนายสังวรณ์ ใจไมตรี สามีให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า วันนี้สามี และพวก ๆ เพื่อนบ้าน ได้ออกจากบ้านมาเพื่อมาหาเก็บเศษเหล็ก และหัวกระสุน บริเวณบนเขาซึ่งเป็นเขาที่ทหารใช้เป็นเป้าสนามยิงปืนใหญ่ ของพื้นที่การฝึก หลังจากที่ทหารเขายิงแล้ว พวกสามีตนก็จะมาเก็บกระสุนที่ยิงแล้ว บางลูกก็ด้าน ก็จะนำเอามาทุบเพื่อแยกชิ้นส่วนออกจากกัน แล้วนำไปชั่งกิโลขาย เป็นอาชีพหลักของครอบครัวตน
ผู้ที่ไปเก็บหัวกระสุนกันในวันนี้มีนายสังวร ใจไมตรี อายุ 40 ปี ชาวจ.ลพบุรี ,นายเม้า (ชาวเขมร) อาศัยอยู่ ต.ท่าแค อ.เมือง จ.ลพบุรี ,นางวันนิสา พงษ์พันธ์ อายุ 29 ปีชาว จ.ลพบุรี ,นายสุรศักดิ์ ใจไมตรีอายุ 43 ปี ไม่มีบ้านเลขที่ และ ด.ญ.น้ำอ้อย อายุ 13 ปี
เวลา 13.00 น.นายสุรศักดิ์ และ ด.ญ.น้ำอ้อย ได้ขับรถจักรยานยนต์ มาด้วยสภาพร่างกายเลือดท่วมกาย มาแจ้งว่าได้ถูกระเบิด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน ตนจึงได้รีบไปดูปรากฏว่าสามีของตนและพวกได้เสียชีวิตหมด ส่วนสามีของตนร่างกายเละแทบจำไม่ได้ แต่จำได้เพียงเสื้อผ้า ที่สวมใส่เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับเหตุการณ์แบบนี้มักจะมีผู้เสียชีวิตบริเวณตรงนี้เป็นประจำ จากการถูกระเบิดของหัวกระสุนปืนใหญ่ เป็นประจำ และเก็บไประเบิดที่บ้านเป็นประจำ แต่ชาวบ้านก็ยังไม่หวาดกลัวต่อสิ่งจะเกิดขึ้นแต่อย่างใด
