พสกนิกรใช้โอกาสวันหยุดยาวสักการะพระบรมศพเนืองแน่น

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 102 ว่า ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาต่อแถวสักการะอย่างไม่ขาดสาย ส่วนใหญ่ใช้โอกาสช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันมาฆบูชามาร่วมสักการะพระบรมศพ ท่ามกลางสภาพอากาศมีลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน

ส่วนบริเวณหน้าประตูสรีสุนทร ตั้งอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นประตูทางออกของพสกนิกรหลังกราบสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ นำอาหาร ขนม ของว่าง และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชน อาทิ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู ข้าวหมูแดง เฉาก๊วยชากังราว และมีน้ำดื่มให้บริการตลอดทั้งวัน

นางชมพู-น.ส. ร้อย -นางสมคิด
นางชมพู-น.ส. ร้อย -นางสมคิด

น.ส.ร้อย อ่อนสีดา อายุ 72 ปี พร้อมด้วย นางชมพู วงวิหก อายุ 72 ปี นางสมคิด กองทอง อายุ 68 ปี และ ญาติพี่น้องชาว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี รวม 11 คน โดย น.ส.ร้อย กล่าวว่า ตนได้เดินทางมาสักการะพระบรมศพ ตั้งแต่ช่วงเวลา 03.00 น. ตามความตั้งใจเหมือนการมาเพื่อรอรับเสด็จฯ อย่างในอดีตที่เคยทำมาหลายครั้ง ทั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่มาสักการะพระบรมศพ หลังจากมาเมื่อปลายปีก่อนก็มีความรู้สึกอยากกลับมาเรื่อยๆ เท่าที่จะทำได้ แม้จะต้องรอเป็นเวลานานก็ไม่รู้สึกเหนื่อย ยิ่งจะทำให้นึกถึงวันเก่าๆ ที่เคยรอคอยรับเสด็จฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตามพื้นที่ต่างๆ เมื่อหลายสิบปีก่อน

“ทุกครั้งที่ได้เข้าไปปลาบปลื้มมากๆ เหมือนเป็นปีสุดท้ายแล้วที่เราจะได้มากราบพระองค์ ก็จะมาให้บ่อยเท่าที่จะทำได้ สมัยก่อนการเดินทางไม่สะดวกสบาย เวลามีงานราชพิธีใหญ่ๆ เราไม่เคยมารอรับเสด็จฯ พระองค์ที่กรุงเทพฯ แต่ถ้ารู้ว่าพระองค์จะเสด็จฯ มาที่จังหวัด หรือเสด็จฯ ผ่านก็จะไปนั่งรอที่รางรถไฟให้ขบวนรถไฟพระที่นั่งผ่านไปแว๊บเดียวก็ยังดี มีครั้งหนึ่งเห็นทรงโบกมือให้ด้วย แค่นี้ก็ดีใจน้ำตาไหล อีกครั้งที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เราไปรอทั้งวันยู่ไกลๆ เห็นรถยนต์พระที่นั่งขับผ่านมาช้าๆ ก็ปลื้มใจแล้ว แต่เหมือนตอนนั้นอยู่ดีๆ รถก็ขับอ้อมมาในถนนเส้นที่ประชาชนนั่งรออยู่ เลยได้เห็นพระองค์เต็มตา ตอนนั้นคิดว่าทางนี้ทรงไม่จำเป็น้องผ่านก็ได้ แต่รถก็ผ่านมา คิดว่าเป็นพระเมตตาของพระองค์ที่มอบให้แก่พสกนิกรในวันนั้น” คุณยายร้อยเล่าย้อนด้วยความปลื้มใจ

Advertisement
147997
ศักดิ์สมบูรณ์ พ่ายเผา

ขณะที่นายศักดิ์สมบูรณ์ พ่ายเผา อายุ 38 ปี พาครอบครัวมาจากนวนคร จ.ปทุมธานี กล่าวว่า มาต่อแถวเข้ากราบพระบรมศพตั้งแต่เช้า ซึ่งตนเป็นลูกจ้างเอกชนในโรงงานแห่งหนึ่ง ต้องใช้โอกาสวันหยุดยาวพาครอบครัวมาพร้อมหน้า โดยถือว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้เข้ากราบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

“ถึงรอนานแต่ไม่เหนื่อยเลย ใจเรานึกถึงแต่ข้างในนี้ได้เข้ามาก็ดีใจที่มาหาพระองค์จนได้ และได้พาลูกมาด้วย ตอนนี้ลูกชายอยู่ ป.6 เขาเกิดมาไม่ทันได้เห็นช่วงเวลาที่พระองค์ออกไปทรงงาน จะได้รู้จากทางโทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต เวลาดูโทรทัศน์ก็จะสอนให้เข้ารู้จักพระองค์ ให้รู้ว่าทรงมีพระคุณกับคนไทยเรามาก วันว่างครอบครัวชอบไปเดินพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ ที่นวนคร จะมีบอกตั้งแต่พระราชประวัติ ทฤษฎีการเกษตรพอเพียงต่างๆ ที่พระองค์ทรงคิดและปฏิบัติให้คนไทยห็นว่าอยู่อย่างพอเพียงนั้นให้ความสุขมากเพียงใด นอกจากไปดูเป็นความรู้ให้ลูกแล้ว ยังเป็นความรู้ให้ตัวเองด้วย เพราะมีแพลนในอนาคตข้างหน้าว่าถ้าเก็บเงินได้มากพอก็จะกลับไปทำไร่ที่บ้านเกิด จ.พิษณุโลก โดยจะน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ทั้งหมด” นายศักดิ์สมบูรณ์ เผยความรู้สึก

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์หลังสำนักพระราชวังปิดเวลา 22.00 น ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 45,028 คน รวม 101 วัน มี 4,312,427 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 2,791,111.25 บาท รวม 101 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 362,664,055.34 บาท
S__13140051

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image