เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 12 กุมภาพันธ์ นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ พร้อมภรรยา ทนายความ และ ร.ต.ต.อริยวรรต แห่งพิทย์ ตำรวจติดตามได้เดินทางมาที่ สภ.แสนสุข โดยรถเก๋งมาสด้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฌต 5079 กรุงเทพฯ และเข้าพบกับ พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ เพิ่มพูล ผกก.สภ.แสนสุข พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ จันทร์ศรีเพชร รอง ผกก.สส.สภ.แสนสุข หลังจากนั้น พ.ต.ท.ธีรวัฒน์เป็นผู้ดำเนินการสอบปากคำ หลังจากนั้น พ.ต.อ.เชี่ยวชาญกล่าวว่า การเดินทางของนายสุเทพพบพนักงานสอบสวนครั้งนี้ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม รวมทั้งนำหลักฐานบางส่วนมามอบให้กับตำรวจ รวมทั้งมาแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาทำร้ายร่างกาย
ส่วนการสอบปากคำวัยรุ่นได้สอบไปแล้วทั้งหมด 12 ปาก อย่างไรก็ตามจะพยายามสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องในช่วงเกิดเหตุอีกด้วย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเสียหายทั้งคู่ ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ในกระแสโซเชียลไม่มีผลต่อการทำงานของตำรวจเพราะคดีดังกล่าวเหมือนกับคดีทั่วไป ไม่ซับซ้อนแต่อย่างใด
ทางด้าน ร.ต.ต.อริยวรรต แห่งพิทย์ ตำรวจติดตามนายสุเทพกล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาได้ให้มาดูแลนายสุเทพ เนื่องจากร่างกายไม่พร้อม มีปัญหาเรื่องตา ประกอบกับขับรถทางไกล ร่างกายไม่พร้อมจึงได้ขับรถมาให้
ภายหลังจากการสอบปากคำนายสุเทพเสร็จแล้ว พนักงานสอบสวนได้นำรถเก๋งของนายสุเทพไปตรวจเขม่าดินปืนที่กองวิทยาการ สำนักงานตำรวจภาค 2 เพื่อประกอบในสำนวนอีกด้วย โดยนายสุเทพไม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด เนื่องจากทนายความกำชับไม่ให้พูด
ทางด้าน พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ จันทร์ศรีเพชร รอง ผกก.สส.สภ.แสนสุขกล่าวว่า ในการเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนของนายสุเทพครั้งนี้ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมในคดีที่เกิดขึ้น นอกจากนี้นายสุเทพยังได้แจ้งข้อหากลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาทำร้ายร่างกายช่วงเกิดเหตุมีทั้งหมด 4 คนซึ่งรู้ตัวหมดแล้ว ซึ่งตำรวจจะได้ออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หากไม่มีมาพบจะได้ออกหมายจับต่อไป รวมทั้งได้ส่งตัวนายสุเทพไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อตรวจร่องรอยการถูกทำร้ายประกอบในสำนวนอีกด้วย ส่วนการควบคุมนายสุเทพฯ นั้นตำรวจได้อนุญาตให้มีการประกันตัวไปแล้วในวงเงิน 2 แสนบาทตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว เนื่องจากนายสุเทพไม่คิดหลบหนีและมอบตัวในวันที่เกิดเหตุ
