อัยการ ตอบแล้ว ทักษิณยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมหลังถูกสั่งฟ้อง ทำได้แต่ต้องดูเนื้อหา อสส.จะเป็นผู้พิจารณาว่าตัดสินว่า ประวิงคดีหรือชะลอฟ้อง
กรณีเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่าทีมทนายของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาที่อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้อง ฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมฉบับที่ 2 มาให้ทางอัยการอีก ทั้งที่มีคำสั่งฟ้องไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการประจำจังหวัดสำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามหลักการทั่วไป ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม แม้จะถูกอัยการสั่งฟ้องแล้วก็ตาม ยังสามารถยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมมาได้อีก ไม่มีกฎหมาย หรือระเบียบอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาฯ ข้อใดห้ามไว้ โดยจะขึ้นอยู่กับเนื้อหา และพนักงานอัยการจะเป็นผู้พิจารณา หากเป็นการยื่นพยานหลักฐานใหม่ที่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้กระทำผิด พนักงานอัยการก็อาจจะพิจารณาชะลอการสั่งฟ้องออกไปแล้วทำการสอบสวนใหม่
แต่ถ้าหนังสือร้องขอความเป็นธรรมมีเนื้อหาแค่การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิด หรือให้พิจารณาหลักฐานพยานเก่าที่เคยสอบสวนมาแล้ว ยื่นเพื่อเป็นการประวิงเวลาคดี ทางพนักงานอัยการก็มีอำนาจสั่งยุติการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมได้ และผู้ต้องหาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการสั่งฟ้องของศาลต่อไปตามกำหนด
นายนาเคนทร์กล่าวว่าต่อว่า สำหรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมฉบับล่าสุดของนายทักษิณนั้น ทางนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด ก็จะเป็นผู้พิจารณา และมีคำสั่งต่อไป