ปธ.มูลนิธิวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์-อินเดีย ยกย่อง ร.9 ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภกอย่างแท้จริง

นายณรงค์ฤทธิ์ เอี่ยมเจริญยิ่ง ประธานมูลนิธิวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์-อินเดีย

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเข้าสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 105 พสกนิกรจากทั่วสารทิศยังทยอยเดินทางมาต่อแถวอย่างต่อเนื่อง โดยแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีดำเรียบร้อยและเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ ท่ามกลางสภาพอากาศลมพัดเย็นสบายในช่วงเช้าและช่วงบ่ายแดดร้อนจัดตลอดวัน

นายณรงค์ฤทธิ์ เอี่ยมเจริญยิ่ง ประธานมูลนิธิวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์-อินเดีย กล่าวว่า มูลนิธิจัดตั้งขึ้นเพื่อสนองงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชด้วย เพื่อสร้างพระมหาเจดีย์ที่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย รวมถึงสร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชประดิษฐานที่วัดกุสินาราฯ และที่พระบรมมหาราชวัง เนื่องในพระราชพิธีกาญจนาภิเษกที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ซึ่งมูลนิธิได้น้อมนำเรื่องความพอเพียงมาใช้ในการสนองงาน โดยพระองค์มีรับสั่งว่า พระบรมรูปไม่ต้องใหญ่โตเกินความจำเป็น แต่ทำให้มีคุณภาพและสวยงาม

นายณรงค์ฤทธิ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในการจัดสร้างพระอุโบสถที่วัดกุสินาราฯ ทางมูลนิธิขอพระบรมราชานุญาตพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุไปประดิษฐาน พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุที่รัฐบาลอินเดียทูลเกล้าฯ ถวายแด่รัชกาลที่ 5 รวมถึงพระราชทานเส้นพระเจ้าหรือเส้นพระเกศาของพระองค์ไปประดิษฐานคู่กับพระบรมสารีริกธาตุด้วย ซึ่งตามโบราณถือเป็นการสักการะสูงสุด เหมือนถวายศีรษะให้แก่พระพุทธศาสนา

“ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นพุทธมามกะและองค์เอกอัครศาสนูปถัมภกอย่างแท้จริง เห็นได้จากการเสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดต่างๆ เกือบทั่วประเทศไทย และกราบนมัสการพระอริยสงฆ์ พร้อมทรงอุทิศพระวรกายและทรัพย์สินส่วนพระองค์ในการส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง อย่างพระมหาเจดีย์ที่วัดกุสินาราฯ ก็โปรดเกล้าฯให้จัดสร้าง ทั้งยังพระราชทานเครื่องราชสักการะไปอย่างสม่ำเสมอ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงของมูลนิธิที่ได้สนองงานแก่พระองค์ ครั้งนี้ก็ได้มาร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลถวายพระบรมศพ ถือเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณเป็นครั้งสุดท้าย สร้างความปลื้มปีติและความประทับใจแก่พวกเราเป็นอย่างยิ่ง” นายณรงค์ฤทธิ์กล่าวด้วยความตื้นตัน

Advertisement

S__13426754

นายบวร ยสินทร ประธานเครือข่ายราษฎรอาสาปกป้องสถาบัน กล่าวว่า เครือข่ายเกิดจากการรวมตัวของคนที่รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2553 มีพันธกิจในการสร้างความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อไม่ให้ผู้ใดมาละเมิด ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงมีต่อชาวไทย ตนและสมาชิกทุกคนรู้สึกซาบซึ้ง ดีใจ และตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลถวายพระองค์ เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีที่พวกเรามีต่อพระองค์

“สำหรับการน้อมนำแนวพระราชดำริมาใช้กับการดำเนินงานของเครือข่าย คือ การนำความรู้ เรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง และหลักการ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา มาใช้ในการส่งเสริมให้ประชาชนได้รับความรู้เกี่ยวกับพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย เช่น การพาเยาวชนลงพื้นที่ศึกษาดูงานโครงการและศูนย์พัฒนาต่างๆ ในพระราชดำริ อย่างไรก็ตาม การที่จะให้ประชาชนเข้าใจถึงหลักการต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ส่วนราชการต้องทำให้ประชาชนดูเป็นตัวอย่างก่อน และเพื่อเป็นการยกย่องพระมหากรุณาธิคุณและพระอัจฉริยภาพของพระองค์ ตนและเครือข่ายยังร่วมสนับสนุนการถวายสมัญญานามมหาราช แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชด้วย” นายบวรกล่าว

Advertisement
นายบวร ยสินทร (ชุดขาวกลาง ซ้าย)
นายบวร ยสินทร ประธานเครือข่ายราษฎรอาสาปกป้องสถาบัน (ชุดขาวกลางด้านซ้าย) และสมาชิกเครือข่าย

 

นางนงลักษณ์ ดังก้อง อายุ 51 ปี ชาวมหาชัย จ.สมุทรสาคร เล่าถึงความรู้สึกภายหลังเข้ากราบสักการะพระบรมศพว่า เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพพร้อมกับน้องสาว เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่มาสักการะพระบรมศพ โดยเดินทางมาถึงตั้งแต่เวลา 05.00 น. เนื่องจากครั้งแรกที่มาคนเยอะมาก มาตั้งแต่ 05.00 น. ได้กราบพระบรมศพตอน 17.00 น. ครั้งนี้จึงรีบมาเหมือนเดิม แต่จากการติดตามข่าวพอทราบบ้างแล้วว่าจำนวนประชาชนขณะนี้ไม่ได้มากเหมือนเดือนก่อน อย่างไรก็ตาม รู้สึกดีใจมากเพราะครั้งนี้ได้นั่งกราบอยู่แถวหน้าสุด รู้สึกใกล้ชิดพระองค์มากกว่าครั้งก่อน ตนเองประทับใจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทุกเรื่อง โดยเฉพาะพระอัจฉริยภาพของพระองค์ อย่างโครงการฝนหลวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และการแก้ปัญหาดินต่างๆ ให้เกษตรกรได้เพาะปลูกพืชผัก ผลไม้ มีอาชีพ มีรายได้

นางนงลักษณ์ ดังก้อง
นางนงลักษณ์ ดังก้อง

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังสรุปยอดประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังสำนักพระราชวังปิดเวลา 21.07 น. ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 29,097 คน รวม 104 วัน มี 4,412,230 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 2,724,497.50 บาท รวม 104 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 371,859,483.59 บาท

 

S__13426753

S__13426751

S__13426752

S__13426756

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image