เรือบรรทุกสินค้าล่มบริเวณเกาะเขียวรอยต่อระหว่าง จ.ภูเก็ต กับเกาะพีพี จ.กระบี่ ขณะเดินทางไปส่งสินค้าให้กับโรงแรมบนเกาะพีพี 2 ลูกเรือลอยคอ เคราะห์ดีเรือโดยสารขับผ่านช่วยเหลือขึ้นท่าที่ภูเก็ต ด้านตร.น้ำประสานเจ้าของเร่งนำเรือเก็บถังน้ำมันดีเซลล์ 5 พันลิตรลอยเกลื่อนกว่า 28 ถังหวั่นเรือชนแตก
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ท่าเทียบเรือรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รอง ผกก.8 บก.รน. พร้อมด้วย พ.ต.ต.ทศพล มนทสิทธิ์ สว.ส.รน.3 กก.8 บก. ร.ต.ท. วิรัช พุดพ่วง ร.ต.ท.ประพันธ์ ชาญประโค่น รอง สว.ส.รน.3 กก.8 บก.รนและ ส.ต.อ.ทักษิณ กาฬสุวรรณ ผบ.หมู่ รน.3 กก.8 บก. ได้เข้าพูดคุยกับนายธานี มาดชาย อายุ 35 ปี ชาว จ.พังงา กัปตันเรือสุทธิดา 2 และนายโทน นาย สัญชาติพม่า ซึ่งประสบอุบัติเหตุเรือล่มบริเวณเกาะเขียวรอต่อระหว่าง จ.ภูเก็ต กับเกาะพีพี จ.กระบี่ ขณะเดินทางไปส่งสินค้าให้กับโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะพีพี เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันนี้ (16 ก.พ.60) ก่อนที่เรือจะจมลงทะเลเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.วันเดียวกัน ภายหลังได้รับการช่วยเหลือระหว่างนำเรือโดยสาร ชื่อ พิชามน 2009 มีประเสริฐ บุญรบ เป็นกัปตัน เดินทางนำผู้โดยสารกลับเข้าฝั่ง
พ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รอง ผกก.8 บก.รน. กล่าวว่า ด้วยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทางตำรวจน้ำภูเก็ตได้รับการประสานว่า มีเรือบรรทุกสินค้าจากเกาะภูเก็ตไปยังเกาะพีพี จ.กระบี่ ล่มบริเวณเกาะเขียว รอยต่อ จ.ภูเก็ต กับเกาะพีพี จ.กระบี่ โดยมีผู้อยู่ในเรือ 2 คน คือ กัปตันกับลูกเรือ และมีเรือโดยสารซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงให้การช่วยเหลือไว้ได้อย่างปลอดภัย สอบถามเบื้องต้น ทราบว่า เหตุที่เรือจมนั้น เนื่องจากคลื่นลมแรงและกระแทกเข้าบริเวณหัวเรือจนเกิดรอยรั่ว และมีน้ำไหลเข้ามาในตัวเรือ จนกระทั่งเรือจมลงทะเล โดยภายในเรือนอกจากสินค้าที่นำไปส่งซึ่งมีทั้งอาหารแห้งและของสดแล้ว ยังมีถังน้ำมันดีเซล จำนวน 28 ถัง รวมปริมาณน้ำประมาณ 5,000 ลิตร ซึ่งก็ได้ประสานกับทางเจ้าของเรือให้เข้าไปเก็บกู้ถังน้ำมันมาก่อน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดซ้ำซ้อนขึ้น
ขณะที่ นายธานี มาดชาย อายุ 35 ปี กัปตันเรือสุทธิดา 2 เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำเรือดังกล่าวออกจากท่าเรือเจียรวานิชในคลองท่าจีน ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต เพื่อนำสินค้าไปส่งให้กับโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะพีพี จ.กระบี่ ระหว่างทางได้เกิดคลื่นลมแรง ความสูงประมาณ 2-3 เมตร กระแทกเข้ามาที่หัวเรือที่เคยมีรอยรั่วเข้าอย่างจัง จนให้หัวเรือแตกและมีน้ำค่อยๆ ไหลเข้ามา และไม่สามารถที่จะบังคับเรือต่อไปได้ จึงได้โทรศัพท์หาเจ้านาย และแจ้งเพื่อนชาวเรือที่อยู่บริเวณใกล้เคียงให้ทราบ หลังจากที่เรือจมตนกับลูกเรืออีกคน ได้ใส่เรือชูชีพและลอยคออยู่ในทะเล ระหว่างนั้นได้มีเรือชื่อ พิชามน 2009 ผ่านมา และได้โยนห่วงยางมาให้เกาะเพื่อขึ้นไปยังเรือลำดังกล่าวได้อย่างปลอดภัย
