นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ใช้แรงงานหรือลูกจ้างมีจำนวนมาก สถานการณ์ของประเทศไทยและของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งการใช้แรงงานในปัจจุบันมีรูปแบบที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ให้มีความเหมาะสมกับบริบทของเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยการปรับแก้กฎหมายมีสาระสำคัญหลายประการ
นายสุเมธกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดให้หญิงมีครรภ์สามารถมีสิทธิลาเพื่อตรวจครรภ์ในระหว่างตั้งครรภ์ได้เพื่อให้เกิดความชัดเจน กำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในวันลาเพื่อกิจธุระอันจำเป็น ปีหนึ่งไม่น้อยกว่าสามวันทำงาน รวมทั้งกำหนดอัตราค่าชดเชยเพิ่มเติมกรณีนายจ้างเลิกจ้าง สำหรับลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 20 ปีขึ้นไปให้มีสิทธิได้รับค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 400 วัน
นายสุเมธกล่าวว่า การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อวงการแรงงานในวงกว้าง ดังนั้น เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ทราบ รวมทั้งมีโอกาสในการมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ปัญหาอุปสรรค ตลอดจนแนวทางการปรับปรุงแก้ไขให้ร่างกฎหมายฉบับนี้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจึงได้กำหนดจัดการสัมมนาไตรภาคี เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย วันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพฯ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันทุกฝ่าย
