ธีระวัฒน์-ปานเทพ แฉกล “ล็อกสเปค” ออกกฎหมายเอื้อทุนใหญ่ใช้กัญชา กีดกันหมอพื้นบ้าน

ธีระวัฒน์-ปานเทพ แฉกล “ล็อกสเปค” ออกกฎหมายเอื้อทุนใหญ่ใช้กัญชา กีดกันหมอพื้นบ้าน พร้อมขอให้ สธ. เปิดหลักฐานใช้ถอด “ฟ้าทะลายโจร” ออกจากยารักษาโควิด-19 ชี้ ฟ้าวิฯ ทำให้เชื้อกลายพันธุ์

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมด้วย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอให้ทบทวน 2 ประเด็น คือ การนำกัญชากลับเข้าสู่บัญชีรายชื่อยาเสพติดและการถอดฟ้าทะลายโจรออกจากเวชปฏิบัติโรคโควิด-19 แต่ยังคงฟาวิพิราเวียร์อยู่

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า ประเด็นของการประกาศนำกัญชา กัญชงกลับเข้าสู่ยาเสพติดให้โทษ ที่ผ่านมานั้นมีแต่การพูดถึงเรื่องการนำไปใช้ในทางที่ผิด ทำให้เกิดโทษ ทำให้เกิดอคติตั้งแต่ต้น เช่นเด็กใช้แล้วสมองเสื่อม ทั้งที่ในหลายประเทศมีการวิจัยเรื่องนี้ตั้งแต่ปีค.ศ.2016 ในคู่แฝดที่มีสติปัญญาใกล้เคียงกันหลายพันคู่ มีการเลี้ยงดูในครอบครัว สิ่งแวดล้อมเดียวกัน ซึ่งแฝดคนหนึ่งใช้กัญชา อีกคนไม่ได้ใช้ เป็นการศึกษาต่อเนื่องจนถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัย พบว่าผลของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ต่างกัน แสดงว่ากัญชาไม่มีผลต่อสติปัญญา และลักษณะการติดกัญชาไม่ง่ายเหมือนบุหรี่และแอลกอฮอล์ ทั้งการเลิกกัญชาก็สามารถเลิกได้โดยไม่มีอาการลงแดง ส่วนกรณีที่ระบุว่าผู้ใช้กัญชาแล้วทำร้ายคน ก็ไม่มีการพิสูจน์ว่าผู้นั้นใช้ร่วมกับยาเสพติดอื่นด้วย เป็นการโทษกัญชาอย่างเดียว ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลกับสังคมที่ไม่ชัดเจนนายปานเทพ กล่าวว่า ตามที่ตนได้ยื่นข้อเสนอใหม่ เป็นร่างประกาศรายชื่อยาเสพติดให้โทษ ซึ่งเป็นการใช้กัญชา กัญชง อย่างมีเงื่อนไขเพื่อให้ผู้ที่ใช้อย่างถูกต้องอยู่เดิม สามารถใช้ได้อย่างถูกกฎหมายภายใต้พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดพ.ศ.2564 ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตว่า มีการล็อกสเปคให้กับกลุ่มทุนใหญ่ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยมีการกีดกันแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ หมอพื้นบ้าน รวมถึงแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่ให้จ่ายสารสกัดกัญชา รวมถึงกัญชง เนื่องจากใน พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดฯ ในมาตรา 40 ระบุว่าจะต้องมีเภสัชกรดูแลตั้งแต่กระบวนการผลิต นั่นคือการปลูก ซึ่งต่างจาก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่ 7 และ 8 ที่เปิดช่องให้แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ หมอพื้นบ้าน รวมถึงแพทย์แผนปัจจุบัน สามารถดำเนินการในส่วนนี้ได้ ดังนั้น เมื่อมีการกำหนดเรื่องดังกล่าวขึ้นมาแล้ว ผู้ที่จะทำได้ คือจะต้องเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ โรงพยาบาลเอกชน ฟาร์มปิดขนาดใหญ่ กลุ่มทุนเพราะค่าจ้างเภสัชกรเดือนละหลักแสนบาท ตนจึงมองว่าเรื่องนี้เป็นการล็อกสเปคให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่นายปานเทพ กล่าวต่อว่า ส่วนในเรื่องของการถอดฟ้าทะลายโจรออกจากเวชปฏิบัติของกรมการแพทย์ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 โดยใช้ผลการวิจัยการใช้ฟ้าทะลาย กับยาคู่เทียบอื่น คือ ยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้มีพิรุธ เพราะการศึกษาดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่มีการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ที่เชื้อรุนแรงน้อย แม้ว่าไม่ได้รับยาก็หายได้เอง ซึ่งต่างจากสมัยที่มีการระบาดของเดลต้า มีการศึกษาใช้ฟ้าทะลายโจรกับผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการ พบว่าได้ผลดี กรมการแพทย์แผนไทย สำรวจพบว่าลดอาการปอดอักเสบได้ถึงร้ยอละ 94 ทำให้ลดการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ได้ จึงมีการออกเวชปฏิบัติออกมา ผู้ป่วยหลายคนจึงได้รับฟ้าทะลายโจร แต่ในวันนี้กลับถูกถอดออก ทั้งที่ยาฟาวิพิราเวียร์ถูกทักท้วงจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย ว่าไม่ควรใช้ในผู้ป่วยอาการน้อย หรือไม่มีอาการเพราะทำให้เชื้อดื้อยา ดังนั้น ตนจึงอยากขอรายงานการประชุมและรายงานการวิจัยที่สนับสนุนการถอดฟ้าทะลายโจรออกจากยารักษาโควิด-19

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image