ทุบรถอีกคันที่ 8 ภาพวงจรปิดหลักฐานมัดแน่นแค้นขอเงินแม่ 8 แสนไม่ได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ผวาหนักรถเก๋งของตนเองจะโดนทุบกระจก เนื่องจากคนร้ายประกาศตั้งเป้าจะทุบกระจกรถให้ได้ 10 คัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษ จากกรณีที่ เกิดเหตุคนร้ายใช้ก้อนอิฐทุบกระจกรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีขาว หมายเลขทะเบียน ญธ 6035 กรุงเทพฯ ที่โรงจอดรถภายในบริเวณสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ สภาพบริเวณกระจกรถด้านหน้ามีรอยแตกร้าวด้านข้างรถพบก้อนอิฐขนาดใหญ่ตกอยู่ ซึ่งคาดว่าเป็นก้อนอิฐที่คนร้ายใช้ทุบกระจกหน้ารถเก๋งแตกทั้งบาน ซึ่ง ร.ต.อ.เจมรัก โสสอน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้สอบสวนแล้วทราบว่า เจ้าของรถคันที่เกิดเหตุชื่อ นางเพ็ญพิมนต์ โมรา อายุ 42 ปี อาชีพรับราชการ เป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพยุห์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีบ้านอยู่ติดกับบริเวณสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ มีนายวัชรพล สุขขะ อายุ 28 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 เห็นเหตุการณ์ และได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีนายเจ อายุประมาณ 20 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของนาง ต. เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซีบีอาร์ สีขาวแดง เลขทะเบียนจำได้ว่า 782 ไม่ทราบหมวดอักษรและจังหวัด ได้ขับขี่รถเข้ามาในสำนักงาน และได้ไปจอดรถที่บริเวณที่บริเวณหลังรถเก๋งฮอนด้าสีขาวคันหนึ่ง จากนั้น นายเจ ได้ขับรถมายังรถคันที่เกิดเหตุ จากนั้น ตนได้ยินเสียงดังโครมและนายเจ ได้ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเดินมาดูพบว่า กระจกหน้ารถเก๋งคันที่เกิดเหตุโดนทุบแตกกระจาย ซึ่งนายเจ ได้ก่อเหตุเผารถมาแล้ว 1 คัน และทุบกระจกรถเก๋ง 5 คัน รวมคันนี้แล้ว มีรถได้รับความเสียหายจากการกระทำของนายเจทั้งสิ้น 7 คันด้วยกัน โดย นายอุทัย แก้ววงษา อายุ 41 ปี นักการภารโรงที่อยู่ในเหตุการณ์ให้การว่า ตนได้ยินนายเจขอเงินจำนวน 800,000 บาท จากนาง ต. แม่ของตนเองซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 แต่ว่า นาง ต.ไม่ให้เนื่องจากว่าเป็นเงินจำนวนมาก นายเจ จึงประกาศว่า หากแม่ไม่ให้เงินก็จะทุบรถจำนวน 10 คัน จนกว่าแม่จะให้เงิน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 22 ก.พ. 59 ร.ต.อ.ขจรศักดิ์ เสฐียร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้ก้อนอิฐทุบกระจกรถที่บริเวณโรงจอดรถ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ต.หนองครก อ.เมืองศรีสะเกษ ซึ่งได้เคยเกิดเหตุรถเก๋งถูกทุบกระจกเมื่อวันวานนี้ ( 21 ก.พ. 59) ที่ผ่านมา จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กจ 5996 ศรีสะเกษ สภาพรถกระจกด้านหลังมีร่องรอยถูกทุบด้วยก้อนอิฐขนาดใหญ่ทำให้กระจกแตกกระจายเป็นรูกว้างประมาณ 5 นิ้ว และพบว่า ก้อนอิฐยังคงติดอยู่ที่บริเวณกระจกที่โดนทุบ ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของสำนักงานพบว่า ก่อนเกิดเหตุ มีชายคนหนึ่งขับขี่รถ จยย.แบบบิ๊กไบค์ สวมหมวกกันน็อคสีแดงเข้ามาบริเวณที่จอดรถใกล้กับห้องประชุมเพชร สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 และคนร้ายได้มาจอดรถที่บริเวณท้ายรถคันที่เกิดเหตุ จากนั้น คนร้ายได้เอาก้อนอิฐที่ถือติดตัวมาด้วยขว้างไปที่กระจกรถคันที่เกิดเหตุ และคนร้ายได้ขับขี่รถ จยย.ออกไปอย่างรวดเร็ว
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถคันที่เกิดเหตุเป็นของ นางโกลัญญา อ่อนหวาน เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ชำนาญงาน กลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 โดยได้นำเอารถมาจอดไว้ที่โรงจอดรถเพื่อทำงานเร่งรัดเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ซึ่งนายบุญช่วย รอดเนียม หัวหน้างานประชาสัมพันธ์ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ที่ได้ดูภาพในกล้องวงจรปิดแล้วให้การยืนยันว่า รถ จยย.และชายคนที่ขับขี่รถ คือ นาย เจ เป็นลูกชายของนาง ต. เจ้าหน้าที่ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ที่เคยเข้ามาก่อเหตุทุบและเผารถในบริเวณสำนักงานมาแล้วรวมทั้งสิ้น 7 คันด้วยกัน โดยล่าสุดเมื่อวันวานนี้ (21 ก.พ.59) คนร้ายรายเดียวกันนี้ได้ทุบรถของนางเพ็ญพิมนต์ โมรา อายุ 42 ปี อาชีพรับราชการ เป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพยุห์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ที่ได้นำเอารเก๋งมาจอดไว้ภายในบริเวณสำนักงาน
นายบุญช่วย รอดเนียม หัวหน้างานประชาสัมพันธ์ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 กล่าวว่า ในช่วงเกิดเหตุเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 59 ตนอยู่ในเหตุการณ์ที่นาย เจ ลูกชายของนาง ต. ขับขี่รถ จยย.คันที่ก่อเหตุเข้ามาในบริเวณด้านหน้าสำนักงาน และนาย เจ ได้ใช้ก้อนกิฐ ทุบลงไปใส่กระจกรถของเจ้าหน้าที่สำนักงานคนหนึ่ง โดยที่ตนและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ไม่กล้าที่จะเข้าไปห้ามปราม เนื่องจากว่า นาย เจ ได้ดึงเอามีด สปาต้าเล่มยาวออกมาขู่พวกตน ทำให้พวกตนกลัวว่าจะโดน นาย เจ ทำร้ายได้และนาย เจ ได้ขับขี่รถ จยย.หลบหนีไป จนกระทั่งมาก่อเหตุทุบกระจกรถต่อเนื่องกัน 2 วันซ้อน โดยไม่หวั่นเกรงกฎหมาย ซึ่งนายเจ ตั้งเป้าไว้ว่า หากนาง ต.ยังไม่ให้เงินจำนวน 800,000 บาท เพื่อจะนำเงินไปซื้อรถ จยย.บิ๊กไบค์ ยี่ห้อดังในราคา 730,000 บาท ก็จะทุบรถไปจนครบ 10 คันให้ได้ โดยรถทุกคันที่โดนนาย เจ ทุบและโดนเอาไฟเผาจะเป็นรถเก๋งทั้งสิ้น จนถึงขณะนี้รถเก๋งโดนทุบและโดนไฟเผาแล้วรวมทั้งสิ้น 8 คันด้วยกัน อีก 2 คันก็จะครบตามเป้าที่นาย เจ ประกาศเอาไว้
นางนุชนาถ สอนศรี เจ้าพนักงานพัสดุ ชำนาญงาน ซึ่งรถเก๋งโดนคนร้ายเอาไฟเผาเป็นคันแรก กล่าวว่า ตนยังหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ซึ่งตนจะไม่ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีเพราะเห็นแก่แม่ของนาย เจ ที่ทำงานด้วยกัน โดยนาง ต.ได้ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายในการซ่อมรถของตนให้เป็นเงินทั้งสิ้น 40,000 บาท และตนไม่คิดว่า นาย จ จะมาก่อเหตุทำลายทรัพย์สินทุบรถเก๋งของคนอื่นรวมแล้ว 8 คันที่ทำงานอยู่ที่เดียวกันกับแม่ของตนเองแบบนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนนี้ นาย เจ เป็นเด็กที่น่ารักมาก ไม่เชื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงนิสัยไปเป็นแบบนี้ได้
ต่อมา ร.ต.อ.ขจรศักดิ์ เสฐียร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้เชิญตัว นางโกลัญญา เจ้าของรถที่โดนทุบและนาง ต. แม่ของนาย เจ ไปทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทางด้าน นายชอุ่ม กรไกร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ได้นัดประชุมฝ่ายบริหารของ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ในวันที่ 23 ก.พ. 59 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมพลอยชมพู เพื่อหาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากว่า เหตุการณ์นี้สร้างความหวาดผวาให้กับเจ้าหน้าที่ของ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ทุกคนที่ขับขี่รถเก๋งมาทำงานเป็นอย่างมาก และมีการวิพากวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างกว้างขวางเกี่ยวกับสวัสดิภาพความปลอดภัยในสถานที่ทำงานที่ไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ทุกคน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนพากันหวั่นเกรงว่า รถที่โดนทุบรายต่อไปอาจจะเป็นรถของตนเองก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นาย เจ ผู้ต้องสงสัยรายนี้ เป็นหลานชายแท้ ๆ ของบิ๊ก ตร.ชื่อดังคนหนึ่ง ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่ ตร.ทั้ง จ.ศรีสะเกษ ต่างพากันหวั่นเกรงในบารมีและไม่กล้าที่จะเข้าไปทำการจับกุม ทั้งที่ นาย เจ ยังคงวนเวียนอยู่ในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ อีกทั้งญาติพี่น้องของ นาย เจ ต่างพากันประกาศว่า ตนเองเป็นญาติของบิ๊ก ตร.ชื่อดัง หากใครกล้าเอาเรื่องนาย เจ ที่ไปทุบรถ จะตามเอาเรื่องจนถึงที่สุด ทำให้นาง ต.ใช้บารมีของบิ๊ก ตร.สามาถที่จะเคลียร์ค่าเสียหายกับเจ้าของรถที่โดนทุบได้ อีกทั้งผู้บริหารระดับสูงของ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 พยายามที่จะไม่ให้ผู้เสียหายเอาเรื่องกับ นาย เจ ทำให้ นาย เจ เหิมเกริมไม่เกรงกลัวกฎหมาย และอาละวาดทุบรถไปเรื่อย ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ต่างพากันกล่าวว่า หากรถที่โดนทุบเป็นรถของผู้บริหารระดับสูงของ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 จะมีความรู้สึกอย่างไร ที่รถของตนเองโดนทุบแบบนี้