เรียกร้องปลดป้ายสนับสนุนหน้าสนามบินออก ขณะที่แกนนำต้าน เผยการศึกษาใหม่ ต้องมีความโปร่งใส

จากกรณีมีการคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินและท่าเทียบเรือขนถ่าย ซึ่งมติ กพช.ได้อนุมัติให้เดินหน้าต่อตามขั้นตอน และนายกรัฐมนตรีได้ออกมายกเลิกให้ทบทวนศึกษาผลกระทบทั้ง EIA และ EHIA ใหม่ ซึ่งหลังมีมติ กพช.ออกมา ทางจังหวัดกระบี่ได้ขึ้นป้ายขนาดใหญ่หน้าสนามบินนานาชาติกระบี่ ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้สร้างโรงไฟฟ้า ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงความเหมาะสม และมีการเรียกร้องให้ปลดป้ายดังกล่าวออก

ขณะที่นายสมนึก กรดเสือ นิติกรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.กระบี่ 1 ในแกนนำคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และบ้านครอบครัวอยู่ที่ ต.ปกาสัย 1 ในชุมชนที่อยู่ใกล้โรงไฟฟ้ากระบี่กล่าวว่า ภายหลังจากมีการให้ทบทวนศึกษาผลกระทบการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินและท่าเทียบเรือใหม่ ก็ได้เดินทางกลับจาก กทม. ซึ่งผู้ที่ไปชุมนุมนั้นกลับบ้านอย่างปลอดภัย หลังจากนี้คือการดูมติ ครม.ในวันอังคาร ว่าจะออกมาอย่างไร ซึ่งหากเป็นไปตามที่แจ้งมาคือ ให้กลับไปเริ่มต้นศึกษาใหม่ทั้งหมดนั้น ก็ต้องดูว่า ใครเป็นผู้ว่าจ้างบริษัท นักวิชาการมาศึกษาใหม่ หากเป็นการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ก็คงรับไม่ได้ เพราะมีเป้าหมายให้ผ่านอยู่แล้ว จึงควรเป็นคนกลาง ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เช่น จากรัฐบาลโดยตรง เป็นต้น ผลที่ออกมาย่อมไม่เอนเอียงและมีความโปร่งใส

นายสมนึกกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ การศึกษาผลกระทบใหม่ทั้งหมดนั้นเชื่อว่าคงใช้เวลาไม่นาน อาจจะแค่ 6 เดือน หรือ 1 ปี เพราะบางเรื่องมีข้อมูลอยู่แล้ว แต่ก็เชื่อว่าจะไม่ผ่าน เพราะพลังงานถ่านหินนั้นมีข้อเสียอยู่มาก รวมทั้งเทคโนโลยีที่นำมาใช้ก็ไม่เป็นไปตามที่ระบุ เพราะขณะนี้ทราบว่าจะเอาเทคโนโลยีจากจีน แทนที่จะเป็นญี่ปุ่น หรือเยอรมัน รวมทั้งมีการลดวงเงินการสร้าง ก็ยิ่งทำให้เทคโนโลยีที่จะนำมาใช้นั้นย่อมต่ำกว่า ไม่ทันสมัย และไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม หากมีการเดินหน้าเชื่อว่าจะมีมวลชนออกมาคัดค้านต่อ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image