พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และพระมหานพพร ปุญญชโย ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ออกมาเจรจาเพื่อลดการปะทะขึ้น ยึดแนวรั้วเหล็กกั้นทิ้งระยะห่างออกจากกันประมาณฝ่ายละ 15 เมตร ที่ถนนเข้า-ออก ประตู 5 และ 6 คลองแอน
เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ พร้อมพระมหานพพร ปุญญชโย ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ได้เดินทางมาพบเพื่อเข้าเจรจากันอย่างสันติวิธีหลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาจะเกิดมีการปะทะกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นเล็กน้อยตรงจุดบริเวณแถวหน้าก็ตามที พระภิกษุสงฆ์นั่งสวดมนต์และเจริญภาวนาศีลอยู่ และต่อมาได้เกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนกับพระสงฆ์กลุ่มหนึ่งที่พยายามเดินฝ่าวงล้อมของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรึงกำลังรักษาการอยู่และได้อ้างว่าจะออกมารับบรรดาเหล่าศิษยานุศิษย์ที่บริเวณด้านนอกถนนใหญ่ ขณะที่กลุ่มพระสงฆ์กำลังพากันเดินออกมาใกล้จะถึงจุดรักษาการของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าขัดขวางการเดินออกมาเอาไว้ได้และเกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้นเล็กน้อยประมาณ 20 นาที ต่อมากำลังทหารตำรวจตระเวนชายแดนได้เดินทางมาสนับสนุนกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนที่ตรึงกำลังกันบนถนนก่อนทางเข้า-ออกประตู 5 และ 6 คลองแอน ซึ่งผลของการเจรจามีผลว่าควรถอยระยะห่างออกจากกันก่อน คนละก้าวจากแนวกั้นรั้วเหล็กของทั้งสองฝ่ายห่างจากกันด้านละ 10 เมตร เป็นอย่างต่ำเพื่อลดการปะทะและแรงกดดันของการเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่ายขึ้น
พ.ต.ต.สุริยาเปิดเผยว่า อาจจะเกิดการระแวงสงสัยซึ่งกันและกันหรือมีความไม่ประสงค์ดีของบุคคลบางกลุ่มก็เป็นได้ที่จะมาชักชวนและปลุกระดมให้เกิดความเสียหายซึ่งกันและกันได้ มันไม่เป็นผลดีเลยสำหรับการต้องเผชิญหน้าปะทะกัน การมาพูดคุยในวันนี้เป็นการพูดคุยกับระดับบริหารของวัดธรรมกาย ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และการพูดคุยก็ได้ข้อสรุปในการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อย่างที่ทางสื่อมวลชนทราบ และสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน จะได้ไม่มีกลุ่มบุคคลมายั่วยุปลุกปั่นทำให้เกิดการสูญเสียขึ้นได้ ในขณะที่เราจะไม่ให้มีการพูดปลุกปั่นทางเครื่องขยายเสียงใดๆ อีก นอกเสียจากเปิดเสียงในการเทศน์ทางธรรมหรือการสอนทางธรรมได้เท่านั้น และฝากพี่น้องประชาชนที่อยู่ตามต่างจังหวัดหากได้ยินการพูดจาในลักษณะของการยั่วยุปลุกระดมว่าทางเจ้าหน้าที่เราได้ทำร้ายพระภิกษุ พวกท่านก็ได้เห็นผ่านทางสื่อมวลชนแล้วว่าเราใช้การประนีประนอมอย่างดีที่สุดและขณะนี้เพื่อลดการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นจึงยึดแนวรั้วเป็นหลักและถอยระยะห่างออกเจ้าหน้าที่ทางวัดพระธรรมกายและเจ้าหน้าที่ตำรวจควรห่างจากกันทิ้งระยะประมาณฝั่งละ 15 เมตร ส่วนมีข่าวว่าจะมีการตัดน้ำตัดไฟวัดพระธรรมกายทางเจ้าหน้าที่กำลังประเมินสถานการณ์อยู่ในขณะนี้
พระมหานพพร ปุญญชโย ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีเพราะความรุนแรงไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ดังนั้นจึงเกิดการประสานงานกันจะได้ลดความขัดแย้งและเข้าใจกัน ซึ่งได้มีความเข้าใจตรงกันว่าควรเพิ่มระยะระหว่างเจ้าหน้าที่ของทางวัดและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ห่างออกไปจะดีกว่า และฝากเรียนทางสื่อมวลชนออกไปว่าหากมีภาพที่ไม่ดีปรากฏออกไปจะเป็นภาพที่ไม่พึงประสงค์ เราก็ไม่พึงประสงค์ด้วยเพราะมันจะกระทบหมดทั้งภาพรวมของประเทศและกระทบกับทางพุทธศาสนา จะส่งผลไม่ดีกับทางรัฐบาลในช่วงภาวะแห่งการปรองดองด้วย จึงขอฝากวิงวอนทางสื่อมวลชนออกไปด้วย และหากทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมีการตัดน้ำตัดไฟฟ้าเข้าจริงๆ มันจะมีผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ตั้งแต่หมู่ 6 ถึงหมู่ 13 ตามประกาศของ คสช. จึงฝากวิงวอนไปถึงผู้มีอำนาจ หรือการตัดสินใจ ให้คำนึงถึงสวัสดิภาพของพระของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ด้วย และจะมีผลกระทบมากมายเสียหายขนาดไหนหากทางวัดและประชาชนในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้
