ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา เปลี่ยนชื่อกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พ.ศ.2560 เผยแพร่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 โดยเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ ในการสมควรเปลี่ยนชื่อกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิบัติภารกิจของส่วนราชการ ซึ่งครอบคลุมทั้งการคุ้มครอง การอนุรักษ์ การส่งเสริม การพัฒนา และการสร้างมาตรฐานด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านไทย และการแพทย์ทางเลือกอื่น เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขอย่างมีคุณภาพ ทั่วถึง และปลอดภัย จึงจําเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
นพ.สุเทพ วัชรปิยานันทน์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า การดำเนินการเปลี่ยนชื่อกรมฯ นั้น ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่ปี 2559 และเพิ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สาเหตุที่เปลี่ยนนั้นก็คล้ายกับหมายเหตุที่ระบุไว้ท้ายพระราชกฤษฎีกา คือ กรมฯ ไม่ได้ทำเพียงแค่เรื่องการพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีการดำเนินงานทางด้านงานวิชาการ การคุ้มครอง ส่งเสริม อนุรักษ์ต่างๆ รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรต่างๆ เพื่อประโยชน์ทางด้านสุขภาพของคนไทยด้วย ซึ่งก็ประจวบเหมาะกับการที่ประเทศไทยมีแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทยฉบับที่ 1 พ.ศ.2560-2564 ซึ่งรัฐบาลพยายามผลักดันเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีเรื่องของสมุนไพรไทยด้วย
