เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่สถานีบีอาร์ที สาทร นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหาคร (กทม.) ลงพื้นที่แจกแบบสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการเดินรถโดยสารด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) โดยมีคณะอาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ร่วมแจกแบบสอบถาม
นายวัลลภกล่าวว่า เพื่อให้เกิดความชัดเจนเรื่องของการยุติรถด่วนบีอาร์ที พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.จึงมีมติให้จัดทำแบบสอบถามเพื่อสำรวจความคิดเห็นประชาชนขึ้น และเพื่อให้เกิดความครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย จึงใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 2,000-2,500 คน ประกอบด้วย 9 กลุ่ม ได้แก่ 1.ประชาชนผู้โดยสารรถบีอาร์ที จะเก็บข้อมูลประชาชนตามสถานีรถด่วนบีอาร์ทีทั้งหมด 12 สถานี 2.ผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลที่วิ่งบนเส้นทางเดียวกับรถด่วนบีอาร์ที ในส่วนนี้จะลงพื้นที่สำรวจประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็จะลงพื้นที่สำรวจกลุ่มเป้าหมายอื่นต่อไป 3.ผู้ประกอบการพาณิชย์และผู้พักอาศัยบนถนนเส้นทางการเดินรถด่วนบีอาร์ที 4.ผู้พักอาศัยในพื้นที่เขตที่มีเส้นทางการเดินรถบีอาร์ที ประกอบด้วยเขตสาทร เขตยานนาวา เขตบางคอแหลม และเขตธนบุรี 5.ผู้พักอาศัยในพื้นที่เขตโดยรอบเส้นทางการเดินรถด่วนบีอาร์ที ประกอบด้วยเขตบางรัก เขตคลองเตย และเขตคลองสาน 6.เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีเส้นทางการเดินรถด่วนบีอาร์ที 7.พนักงานขับรถด่วนบีอาร์ที 8.เจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถด่วนบีอาร์ที และ 9.พนักงานทำความสะอาดว่าขณะที่ทำความสะอาดนั้นมีความคิดเห็นในการเดินรถอย่างไร
“อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทาง กทม.และมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตได้ลงพื้นที่สำรวจประชาชนประมาณ 50 คน เบื้องต้นให้ความเห็นว่า ไม่ว่าจะยกเลิกการเดินรถด่วนบีอาร์ทีแล้วคืนเลนจราจรหรือไม่ก็ตาม ก็พบว่าสภาพการจราจรไม่ได้มีความแตกต่างกัน และส่วนใหญ่เห็นด้วยที่ให้ กทม.จัดโครงการรถด่วนบีอาร์ที ส่วนระยะเวลาในการดำเนินการลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นคาดว่าจะใช้เวลา 15 วันนับแต่วันนี้ และคาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ภายใน 28 กุมภาพันธ์ ส่วนการพิจารณารายละเอียดอื่น เช่น จะพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสาร ปรับแผนดำเนินงานหรือไม่นั้น ต้องนำผลสรุปจากแบบสำรวจไปประกอบการพิจารณาอีกครั้งในที่ประชุมคณะผู้บริหาร” นายวัลลภกล่าว
เมื่อถามว่า การกลับมาทบทวนและลงสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในครั้งนี้ เนื่องจากได้รับความกดดันจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายวัลลภกล่าวว่า การลงพื้นที่สำรวจครั้งนี้ ไม่ได้รับความกดดันจากฝ่ายใด แต่เป็นการสำรวจความคิดเห็นเพื่อประกอบผลสรุปการยกเลิกรถด่วนบีอาร์ทีอย่างรอบคอบ
เมื่อถามอีกว่า แบบสอบถามจะมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด เนื่องจากแบบสอบถามไม่ได้ระบุผู้กรอกแบบสอบถาม นายวัลลภกล่าวว่า แบบสอบถามนี้ได้จัดทำตามหลักแบบสอบถามทั่วไป โดย กทม.เพียงจัดทำแบบสอบถามนี้ขึ้นมาเพื่อสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเท่านั้น ถ้าหากแบบสอบถามมีรายละเอียดที่มากเกินไป จะทำให้ระยะเวลาในการทำแบบสอบถามกินระยะเวลาออกไปอีก เช่น การสำรวจประชาชนผู้ขับขี่รถยนต์จะทำไม่ได้ เพราะจะทำให้เสียเวลาผู้ขับขี่ขณะติดไฟแดง
