ผอ.โรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย น้อมนำพระราชดำริ ‘ร.9’ มาใช้ให้นักเรียนเติบโตขึ้นอย่างเหมาะสม

นายบัญชร จันทร์ดา และคณะนักเรียน โรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 112 ประชาชนจากทั่วประเทศแต่งกายชุดดำสุภาพ มาต่อแถวรอกราบถวายสักการะไม่ขาดสาย

นายบัญชร จันทร์ดา ผู้อำนวยการโรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศลพระบรมศพว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันสูงยิ่งต่อโรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัยฯ เป็นผู้พระราชทานกำเนิด และพระราชทานพระปรมาภิไธยให้กับโรงเรียน อีกทั้งยังเสด็จฯ พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ไปทรงเปิดโรงเรียนและทรงเยี่ยมโรงเรียนอยู่บ่อยครั้ง จึงถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระราชทานโอกาสให้ครู นักเรียน และผู้ปกครองโรงเรียนภ.ป.ร.ราชวิทยาลัยฯมีโอกาสร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลถวายพระบรมศพรวมถึงได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพด้วย

นายบัญชรกล่าวว่า โรงเรียนพยายามสืบสานพระปณิธาน พระราชดำรัส ตลอดจนพระอัจฉริยภาพของพระองค์ ด้วยการน้อมนำแนวพระราชดำริมาใช้ให้นักเรียนเติบโตขึ้นอย่างเหมาะสม เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทในการช่วยเหลือสังคม และเป็นคนที่มีคุณค่าต่อสังคมด้วย โดยตั้งแต่โรงเรียนเปิดก็ได้น้องรำพระราชกระแสรับสั่งทั้งในเรื่องความอ่อนน้อมถ่อมตน การเป็นผู้ให้ และระเบียบวินัย นอกจากนี้ยังสนับสนุนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เปิดโอกาสให้นักเรียนเรียนรู้โครงการพระราชดำริตามภูมิภาคต่างๆ ก่อนแลกเปลี่ยนความรู้ที่ได้กับเพื่อนๆ เพื่อที่ในอนาคตเด็กๆ จะได้นำองค์ความรู้ที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาสังคมต่อไป

S__958628
เจษสุภาภรณ์ รัตนบุรี

นางสาวเจษสุภาภรณ์ รัตนบุรี อายุ 49 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ย้ายมาทำงานและอาศัยในอ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ผู้จัดการบัญชีการเงิน ธนาคารแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ประทับใจในหลวง ร.9 ทุกเรื่อง ชอบทุกโครงการพระราชดำริที่พระองค์ทำ โดยเฉพาะโครงการเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ตั้งแต่แก้มลิง ฝาย เขื่อนเก็บน้ำ ตลอดจนแนวทางการแก้ปัญหาน้ำท่วม ที่ทรงมีสายพระเนตรกว้างไกล ช่วยเกษตรกรในการเพาะปลูก ขณะเดียวกันยังช่วยชาวกรุงเทพฯไม่ให้ถูกน้ำท่วม และที่สำคัญพระองค์ได้พระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในเรื่องการประหยัดอดออม ซึ่งหลังจากตนได้น้อมนำมาใช้ชีวิตเปลี่ยนไปจริงๆ

Advertisement

“แต่ก่อนดิฉันเป็นคนชอบตามกระแส ชอบช้อปปิ้ง อะไรมาใหม่ก็ซื้อ โดยเฉพาะเสื้อผ้าแบรนด์เนม รวมถึงเป็นสมาชิกบัตรเครดิตเกือบครบทุกสถาบันการเงิน ปรากฏว่าชีวิตช่วงนั้นเต็มไปด้วยหนี้สิน รายล้อมไปด้วยสิ่งของที่ซื้อมาโดยไม่จำเป็น สิ่งของที่ใช้เพียงครั้งก็ไม่ใช้แล้ว โดยเฉพาะเสื้อผ้า วันหนึ่งมาคิดได้ว่าดิฉันได้อะไรจากสิ่งของเหล่านี้นอกจากหนี้สินพอกพูน ขณะเดียวกันช่วงนั้นกระแสความพอเพียง ประหยัดอดออม ตามคำสอนของพระองค์ ดิฉันจึงเปลี่ยนตัวเองใหม่ อะไรไม่จำก็ไม่ต้องซื้อ ไม่มีเงินก็ใช้น้อยลง จากนั้นพยายามเคลียร์หนี้สินและทยอยปิดบัตรเครดิตจนหมด ไม่ตามกระแส ส่วนเงินเดือนที่ได้ก็แบ่งเก็บออมร้อย 10 ทุกเดือน สะสมอยู่ 10 ปีงอกเงยเป็นเงินก้อนนำไปซื้อที่ดินแปลงหนึ่งที่จ.นครศรีธรรมราชคาล้านกว่าบาท วางแผนจะกลับไปอยู่จังหวัดบ้านเกิดในช่วงเกษียณอายุ ซึ่งทั้งหมดนี้ที่สำเร็จได้ต้องอาศัยจิตใจที่เข้มแข็ง อย่างไรก็ดี ดิฉันก็จะนำคำสอนนี้ไปสอนลูกต่อ เพื่อให้ความพอเพียงความประหยัดเป็นภูมิคุ้มกันเขาสู่อนาคตที่มั่นคง เพราะเด็กสมัยนี้ต้องเผชิญสิ่งล่อตาล่อใจ ทุกอย่างเข้ามาอย่างรวดเร็ว อะไรๆก็อยากได้ไปหมด ทั้งที่เขายังยืนด้วยตตนเองไม่ได้” นางสาวเจษสุภาภรณ์

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image