รู้จัก’หมึกบลูริง’ฉายา’สวยประหาร’ พิษร้ายรอบตัว สัตว์รักสงบ ชอบหลบตามรู

ภาพ จารุวัฒน์ นภีตะภัฏ

หมึกบลูริง สมญานาม สวยประหาร พิษร้ายรอบตัว สำหรับจับเหยื่อ ถูกกัดเสี่ยงตายสูง นักวิชาการชี้ เป็นสัตว์รักสงบ ชอบหลบตามรู ไม่ว่ายน้ำเพ่นพ่าน อย่ากลัวเกินเหตุ แต่กัดแน่ถ้าถูกรังแกก่อน เผยเหยื่อส่วนใหญ่ไม่รู้เพราะปากเบา ขยับไม่ได้ภายใน 5-10 นาที หยุดหายใจใน 2 ชั่วโมง กังวลคนคัดเลือกหมึกในเรือเป็นพม่า ไม่ค่อยมีใครรู้จัก

กรณีมีการโพสต์รูป หมึกสายวงน้ำเงิน ซึ่งเป็นหมึกพิษร้ายแรงกินเข้าไปถึงตายได้ ในกระบะขายหมึกทั่วไปในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในโซเชียลเน็ตเวิร์กกันอย่างแพร่หลายนั้น

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ รศ.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ว่า หมึกสายวงน้ำเงินนั้น เป็นหมึกที่พบได้ทั่วไป มีไม่มากนัก แต่ไม่ถึงขั้นเป็นสัตว์ทะเลหายาก เพราะชาวประมงอวนลากเจอหมึกชนิดนี้เป็นประจำ รวมทั้งเวลาตนไปทำงานเก็บข้อมูลเรื่องสัตว์ทะเลในเรือประมงก็เจอทุกครั้ง ครั้งละ 2-3 ตัว ในแง่สถิติทางวิทยาศาสตร์ ไม่ถือว่ามากนัก

เมื่อถามว่า ชาวประมงรู้จักหมึกชนิดนี้หรือไม่ รศ.ธรณ์ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่ารู้จักกันหรือเปล่า เพราะคนที่ทำงานในเรือประมงส่วนใหญ่เวลานี้คือ ชาวพม่า เข้าใจว่า ไม่น่าจะมีใครรู้จัก ดังนั้นจึงพูดตรงๆว่า อยู่ที่ดวงเลยว่า คนที่ทำหน้าที่คัดเลือกทั้งหมึกและปลาที่จับขึ้นมาได้นั้น จะเลือกเอาหมึกสายวงน้ำเงินตัวนี้ขึ้นไปปะปนกับหมึกที่กินได้ตัวอื่นๆ หรือไม่ ทั้งนี้ก็ไม่น่าจะมีหน่วยราชการส่วนไหนที่คอยเข้าไปทำหน้าที่แนะนำว่า สัตว์ทะเลตัวไหนกินได้หรือกินไม่ได้ มีอันตรายอย่างไรบ้าง

Advertisement

“แต่อย่าได้กังวลจนเกินไป ถ้าเรากินอาหารทะเลปกติ กุ้งหอยปูปลาทั่วไปผมว่าไม่น่าจะมีปัญหา สัตว์ทะเลที่มีพิษกินเข้าไปแล้วตาย มี 2 ชนิดเท่านั้น คือ เจ้าหมึกสายวงน้ำเงินตัวนี้กับปลาปักเป้า” รศ.ธรณ์ กล่าว

วันเดียวกัน นายจารุวัฒน์ นภีตะภัฏ อาจารย์ประจำสถานวิจัยความเป็นเลิศความหลากหลายทางชีวภาพแห่งคาบสมุทรไทย คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว อธิบายถึง หมึกสายวงฟ้า หรือ หมึกบลูริง ซึ่งมีสมญานามแห่งท้องทะเลว่า สวยประหาร (Fatal Beauty) โดยกล่าวว่า หมึกสายวงฟ้าเป็นสัตว์ที่ไม่ดุร้าย เป็นสัตว์รักสงบ เจอสัตว์ใหญ่อย่างคนก็ขอหลบก่อน ปกติมักจะแอบอยู่ตามรู ซอกหิน กอสาหร่าย ไม่ได้ออกมาเพ่นพ่าน ลอยสะเปะสะปะไปทั่วทะเลแบบแมงกะพรุนกล่องที่เป็นข่าว

“สำหรับคนที่โดนหมึกชนิดนี้กัด ก็เพราะไปรังแก แหย่มันก่อน จับมาเล่น จนมันเครียดจัด ปลาหมึกเป็นอันตรายต่อคน น้อยกว่าที่คนจะเป็นอันตรายต่อปลาหมึก ถ้าเจอเค้าเมื่อไร ก็ถือหลัก “4 อย่า 1 ปล่อย” ด้วยใจเมตตา เป็นดีที่สุด นั่นคือ 1. อย่ารบกวน ถ้าพบในธรรมชาติ 2. อย่าจับ(ด้วยมือเปล่า) 3. อย่ากิน(เนื้อมีพิษ) 4. อย่าเอามาเลี้ยง(อันตรายกับคนในบ้าน) และ 1 ปล่อย คือ ปล่อยเขาลงทะเล กลับบ้านไปเถอะครับ” นายจารุวัฒน์ กล่าว

นายจารุวัฒน์ ระบุอีกว่า หมึกสายทุกชนิดมีพิษไว้สยบเหยื่อที่เป็นอาหารซึ่งพิษแรงต่อมนุษย์ด้วยเท่านั้น หมึกสายหลายชนิดก็มีลายวงสีฟ้า แต่จะมี 2 วงเท่านั้น ไม่เยอะเหมือนตัวนี้ พวกนั้นรับประทานได้ตามปกติ มีแต่ หมึกสายวงฟ้าเท่านั้นที่รับประทานไม่ได้ มีรายงานกินแล้วตายในเวียดนาม

ปลาหมึกสายวงฟ้า (blue-ringed octopus, Hapalochlaena spp.) เป็นปลาหมึกกลุ่มปลาหมึกอัฐบาท (หนวด 8 เส้น) ขนาดความยาวลำตัว 15-60 มม. มีลายรูปวงแหวนสีน้ำเงินหรือสีฟ้าประทั่วตัว ดำรงชีวิตแบบหน้าดิน พบทั้งในอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน อาศัยอยู่ในเขตน้ำตื้นชายฝั่ง ที่มีหน้าดินทั้งแบบโคลน กรวด ทราย พิษของปลาหมึกสายวงฟ้ามีไว้เพื่อประโยชน์ในการจับอาหารโดยทำให้เหยื่อเป็นอัมพาตไม่ดิ้นรนต่อสู้ ประกอบด้วยพิษที่เรียกว่า tetrodotoxin(TTX) ชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า พิษชนิดนี้ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท โดยจะเข้าไปขัดขวางการเคลื่อนที่ของโซเดียมไอออนผ่านผนังเซลล์ประสาท คือ ขัดขวางการสั่งงานของสมองที่จะไปยังกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้อำนาจจิตใจ แต่ไม่มีผลต่อกล้ามเนื้อที่อยู่นอกอำนาจจิตใจ คนที่ถูกพิษจึงมีอาการคล้ายเป็นอัมพาต หายใจไม่ออก เนื่องจากกล้ามเนื้อกระบังลมและหน้าอกไม่ทำงาน ทำให้ไม่สามารถนำอากาศเข้าสู่ปอดได้ เป็นเหตุให้เสียชีวิต ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับปริมาณพิษที่ได้รับ เหยื่อที่เป็นเด็กหรือคนรูปร่างเล็กมีความเสี่ยงสูงกว่า หมึกสายวงฟ้าเพียงตัวเดียวมีพิษมากพอจะทำให้ผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนัก 75 กก.จำนวน 10 คนเป็นอัมพาตได้อย่างสบาย ไม่มียาแก้พิษชนิดนี้ จากจำนวนผู้ที่ถูกกัดทั้งหมดในประเทศออสเตรเลียและเวียดนาม มากกว่า 25% เสียชีวิต แต่ยังไม่ปรากฏรายงานในประเทศไทย

“การกัดเป็นไปอย่างแผ่วเบา เหยื่อส่วนมากไม่รู้ตัวว่าโดนกัด บาดแผลมีขนาดเล็กมาก เลือดออกเพียงหยดเดียว เนื้อรอบรอยแผลไม่เปลี่ยนสี ไม่มีอาการเจ็บปวด แพทย์จึงวิเคราะห์หาสาเหตุได้ยาก เหยื่อกว่าจะรู้ตัวก็ต่อเมื่อมีอาการแล้ว เหยื่อที่กลายเป็นผู้ป่วยจะรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่สามารถหายใจและขยับเขยื้อนได้ ภายใน 5-10 นาทีนับตั้งแต่ถูกกัด ผู้ป่วยจะมีอาการปากแห้ง ตาพร่า หายใจและกลืนน้ำลายลำบาก ตามด้วยอาการคลื่นไส้และอาเจียน หลังจากนั้นจะหยุดหายใจภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง การปฐมพยาบาลต้องหาวิธีนำอากาศเข้าสู่ปอด เช่น โดยการเป่าปาก เป็นต้น ระหว่างนั้นรีบนำส่งแพทย์เพื่อใช้เครื่องช่วยหายใจ ถ้าได้รับพิษปริมาณน้อยและการช่วยชีวิตเป็นผล ผู้ป่วยจะฟื้นเป็นปกติภายใน 24 ชม. เว้นเสียแต่ว่าจะขาดออกซิเจนนานเกินไปจนเซลล์สมองเสียหายอย่างถาวร การถูกพิษอาจไม่จำเป็นต้องโดนกัดแต่เพียงอย่างเดียว การสัมผัสที่นานพออาจทำให้พิษซึมผ่านเข้าทางผิวหนังได้ อาการถูกพิษแบบอ่อนๆ อาจเกิดขึ้นได้แค่เอามือจุ่มลงไปในน้ำใกล้ๆ บริเวณเลี้ยงปลาหมึกสายวงฟ้าอยู่” นายจารุวัฒน์ กล่าว

นายจารุวัฒน์ ระบุด้วยว่า นอกจากนั้นการบริโภคเนื้อปลาหมึกสายวงฟ้าก็ทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน เพราะพิษแทรกอยู่ในเนื้อปลาหมึกด้วย มีรายงานการเสียชีวิตเพราะบริโภคมาแล้วจากประเทศเวียดนาม นอกจากนั้นกระบวนการประกอบอาหารนั้นอาจทำให้ต่อมน้ำลายพิษแตกออกเพิ่มให้พิษแทรกซึมเข้าไปในเนื้อมากขึ้นอีก ในประเทศไทยปลาหมึกสายวงฟ้าถูกจับและจำหน่ายรวมไปกับปลาหมึกสายชนิดอื่นๆ ผู้บริโภคสามารถแยกแยะปลาหมึกสายวงฟ้าออกจากปลาหมึกสายชนิดอื่นๆ ที่บริโภคได้โดยสังเกตจากวงสีฟ้าที่ปรากฎอยู่ตามลำตัวมากกว่า 2 วง เห็นได้ชัดเจนแม้ปลาหมึกจะตายแล้วหรือผ่านการต้ม ปิ้ง ย่างมาแล้วก็ตาม ส่วนปลาหมึกสายที่มีวงสีฟ้าอยู่เพียง 2 วงใต้ตาหรือไม่มีวงสีฟ้าเลยสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัยตามปกติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image