เปิดเส้นทางเฟอร์รี่เชื่อมอ่าวไทย พัทยา – หัวหิน มิติใหม่ของการเดินทางและการท่องเที่ยวทางทะเล

 

ได้ฤกษ์เปิดโครงการเรือเฟอร์รี่ข้ามอ่าวไทย ระหว่างพัทยา – หัวหิน อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ทดลองให้บริการฟรีในช่วงปลายปี 2559 – มกราคม 2560 ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของการเดินทางและการท่องเที่ยว

นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่รัฐบาลโดยการนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนอย่างจริงจังให้มีการเชื่อมโยงการคมนาคมทางน้ำอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างทางเลือกใหม่ในการเดินทาง อันจะนำมาซึ่งการสร้างมูลค่าในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในจังหวัดชายทะเลของอ่าวไทยระหว่างเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีกระทรวงคมนาคมเป็นผู้รับผิดชอบ

กระทรวงคมนาคมได้เริ่มขับเคลื่อนโครงการนี้ โดยได้มอบนโยบายให้กรมเจ้าท่า ศึกษาจุดที่เหมาะสมในการก่อสร้างท่าเรือ หรือพัฒนาท่าเรือเดิมที่มีอยู่ให้เป็นท่าเรือมาตรฐาน สามารถรองรับรถยนต์ได้ทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ พร้อมการบริการเชิงพาณิชย์ด้วย หากเป็นไปได้จะใช้ท่าเรือของภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากต้องการให้เป็นท่าเรือสำหรับสาธารณะ จะทำให้การบริการที่ไม่แพง ส่วนการเดินทางจะเป็นการลงทุนของภาคเอกชนที่เข้ามารับสัมปทานเดินเรือ

Advertisement

จากการศึกษาและการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาการเชื่อมโยงการขนส่งและการท่องเที่ยวในพื้นที่อ่าวไทยแล้ว ได้กำหนดท่าเรือในจังหวัดชลบุรีที่มีความเหมาะสมมากที่สุด ได้แก่ แหลมบาลีฮาย ส่วนพื้นที่ทางเลือกฝั่งตะวันตก ได้แก่ พื้นที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ร่องน้ำปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

กรมเจ้าท่า ได้ประกาศเชิญชวนเอกชนที่สนใจในการให้บริการเดินเรือยื่นคำขออนุญาตในเส้นทางฝั่งตะวันออก (พัทยา – สัตหีบ) ฝั่งตะวันตก (หัวหิน – ชะอำ) โดยมีบริษัท รอยัล พาสเสนเจอร์ ไลน์เนอร์ ได้ยื่นความประสงค์เพียงรายเดียวและเป็นผู้ได้รับการคัดเลือก ซึ่งได้เริ่มเดินเรือให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทดลองใช้บริการฟรี ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2559 – มกราคม 2560 ที่ผ่านมา และเริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้เดินทางไปเปิดโครงการฯ และทดลองใช้บริการด้วยตนเอง

การเดินเรือเฟอร์รี่เส้นทางนี้ มีระยะทาง 116 กิโลเมตร หรือประมาณ 61 ไมล์ทะเล จะช่วยลดระยะทางในการเดินทางทางรถยนต์ลงไปได้มากกว่า 3 เท่าตัว สามารถเดินทางจากพัทยา – หัวหิน โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เท่านั้น ซึ่งหากเดินทางโดยทางรถยนต์จะมีระยะทางประมาณ 350 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาในการเดินทาง 5 – 6 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ นับเป็นการสร้างทางเลือกใหม่ในการเดินทางของผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างยิ่ง เนื่องจากช่วยลดระยะเวลาเดินทาง ระยะเวลาขนส่ง ตลอดจนพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวใหม่สร้างมูลค่าเพิ่มการท่องเที่ยวของจังหวัดที่มีศักยภาพในด้านฝั่งทะเลอ่าวไทย ตลอดจนสนับสนุนการแก้ไขปัญหาจราจร ปัญหามลพิษและลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งการเปิดเดินเรือดังกล่าว จะสร้างพื้นที่บริเวณโดยรอบท่าเรือให้กลายเป็นแหล่งขยายตัวทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้อีกด้วย

Advertisement

ในระยะแรก การให้บริการเรือเฟอร์รี่จะเปิดให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวเท่านั้น โดยเรือโดยสาร Catamaran Ferry ความเร็วสูง วิ่งให้บริการวันละ 2 เที่ยว ช่วงเช้าออกจากท่าต้นทางบริเวณท่าเรือแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา เวลา 10.30 น. ของทุกวัน ถึงท่าเทียบเรือบ้านหัวดอน เขาตะเกียบ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เวลา 12.30 น. ส่วนเที่ยวบ่ายจากฝั่งหัวหิน ออกจากท่าเทียบเรือเขาตะเกียบ เวลา 13.30 น. ถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย เวลา 15.30 น. สำหรับอัตราค่าโดยสารในชั้นประหยัด ราคา 1,250 บาท/คน/เที่ยว ชั้นธุรกิจ ราคา 1,550 บาท/คน/เที่ยว

ในอนาคต กระทรวงคมนาคมจะเร่งผลักดันให้มีการพัฒนา ให้สามารถให้บริการได้ทั้งผู้โดยสาร ขนส่งสินค้า และรถยนต์ รวมทั้งจะพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า  นอกจากนี้แล้ว ยังมีแผนงานที่จะขยายเส้นทางเดินเรือเฟอร์รี่เพิ่มเติมในเส้นทางอื่นๆ เช่น บางปู – หัวหิน บางปู – พัทยา เป็นต้น สำหรับเป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทางให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว

กระทรวงคมนาคม ยึดถือความปลอดภัยของผู้ใช้บริการสูงสุดเป็นหลัก โดยกรมเจ้าท่าจะดำเนินการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่น การตรวจสอบสภาพความแข็งแรงของท่าเรือ สภาพเรือ อุปกรณ์ชูชีพในเรือ ระบบสัญญาณติดตามการควบคุมเรือเข้าออก คนประจำเรือ รวมถึงการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการให้บริการอย่างเท่าเทียมกัน

โครงการนี้ จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการคมนาคมขนส่งและการท่องเที่ยวทางน้ำ ที่จะสร้างความสุขและความประทับใจในการเดินทาง อีกทั้งสนับสนุนการสร้างพื้นที่บริเวณโดยรอบท่าเรือให้กลายเป็นแหล่งขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ได้อีกไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว หากใครมีโอกาสนึกอยากจะลองไปเที่ยวพัทยา – หัวหิน ที่แตกต่างไปจากการเดินทางแบบเดิม ๆ ก็ลองมาใช้บริการเรือเฟอร์รี่ดูสักครั้ง ผู้สนใจสามารถติดตามตารางการเดินเรือหรือสอบถามรายละเอียดการเดินทาง ได้ที่โทรศัพท์ 0-3848-8999 และ 08-9625-9949 หรือเฟสบุ๊คแฟนเพจ “เรือเฟอร์รี่ข้ามอ่าวไทย พัทยา – หัวหิน” หรือค้นหา “@RoyalPassengerLiner”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image