ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 114 ประชาชนจากทั่วประเทศแต่งกายชุดดำสุภาพ มาต่อแถวรอกราบถวายสักการะไม่ขาดสาย โดยสำนักพระราชวังเปิดประตูวิเศษไชยศรีให้ประชาชนเข้าตั้งแต่เวลา 04.45 น. จากเปิดปกติเวลา 08.00 น. ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนอบอ้าวตลอดทั้งวัน ขณะที่วันนี้บริเวณด้านหน้ากำแพงพระบรมมหาราชวัง เยื้องๆ ประตูเทวาภิรมย์ กลุ่มดอกไม้รักพ่อ นำโดยอาจารย์จิ๊บมหาชัย (หมอดู) ได้นำดอกไม้นานาพันธุ์ อาทิ ดาวเรือง กุหลาบ มาจัดเป็นสวนดอกไม้เป็นรูปหัวใจ และโรยดอกไม้เป็นอักษรว่า “รักพ่อ”
นางทองดี มีกิจ อายุ 76 ปี ชาว อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย มาพร้อมเพื่อนบ้าน นางปวีณา สออนันต์พฤกษ์ อายุ 51 ปี อดทนรอมากับคณะชุมชนที่จะพามากราบพระบรมศพในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ไม่ไหว พากันนั่งรถประจำทางมากราบพระบรมศพ ก่อนจะเข้าไปชมและสักการะพระแก้วมรกต วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยนางทองดีกล่าวว่า ตนรักและผูกพันในหลวง ร.9 เพราะครั้งหนึ่งเคยได้รับพระราชทานผ้าพันคอและธงจากการเป็นลูกเสือชาวบ้าน ไม่เพียงเท่านั้นยังได้เห็นพระองค์ทรงงานและเยี่ยมราษฎร โดยทรงพูดคุยและสอบถามกับราษฎรอย่างใกล้ชิดด้วยการประทับบนพื้นดินในฉลองพระองค์สีกากี ก็เป็นความประทับใจที่ยังจดจำได้ถึงทุกวันนี้ แม้จะได้เห็นจากไกลๆ
“รักพระองค์เพราะพระองค์ดูแลประชาชน ส่วนตัวนอกจากน้อมนำคำสอนเรื่องความประหยัดพอเพียงมาใช้ ก็จะไปสอนต่อลูกหลานให้เดินรอยตามพระยุคลบาท และเป็นคนดีอย่างพระองค์” นางทองดีกล่าว
นางใจ สาระพงษ์ อายุ 72 ปี เกษตรกรจาก จ.เพชรบุรี เดินทางมาโดยรถตู้พร้อมเพื่อนบ้านกว่า 10 คน กล่าวว่า ชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร ทำสวนปลูกผักผลไม้ ทั้งมะนาว มะม่วง สับปะรด และเลี้ยงวัว โดยยึดหลักของคำสอนในหลวง ร.9 เรื่องของความพอเพียง ทำไร่สวนผสม และเน้นการทำเกษตรอินทรีย์ อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากเขื่อนแม่ประจันต์ ต.หนองหญ้าปล้อง ที่ถูกสร้างขึ้นตามพระราชดำริในพระองค์ เนื่องจากแต่ก่อนเมื่อถึงช่วงฤดูร้อนก็ไม่มีน้ำทำการเกษตร แห้งแล้ง แม้มีห้วยน้ำอยู่กลางหมู่บ้าน แต่ก็ต้องขุดดินเพื่อให้มีน้ำใช้ หรือในช่วงฤดูฝน มีน้ำมาก เข้าท่วมที่อยู่อาศัยและสวนผักผลไม้ แต่เมื่อพระองค์ทรงเข้ามาช่วยสร้างเขื่อนให้ ความเป็นอยู่ดีขึ้น มีน้ำกิน น้ำใช้ น้ำทำการเกษตร ชีวิตมีความสุข มีผลผลิตไว้กินและจำหน่าย สร้างเงินและอาชีพได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ เพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อคนไทย และจะเป็นคนดี ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
นางไพฑูรย์ สิงห์อำพล ประธานนักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุ “วิ’ลัยวัยหวาน” เทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางมาพร้อมกับตัวแทนนักเรียนวัยหวานรุ่นแรก จำนวน 50 คน ซึ่งนักเรียนทุกคนมีอายุ 60 ปีขึ้น กล่าวว่า โดยเทศบาลเมืองหัวหินต้องการให้ผู้สูงอายุได้มาแลกเปลี่ยนเรียนประสบการณ์ชีวิตซึ่งกันและกัน มีสังคม จะได้ไม่เหงา ซึ่งมีการเรียนกฎหมายพื้นฐาน เรียนรู้อาชีพต่างๆ ศึกษาธรรมะ นั่งสมาธิ โดยเรียนทุกวันพุธ สัปดาห์ละ 1 วัน ทั้งนี้ พวกเรารู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงช่วยเหลือราษฎรชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้มีความสะดวกสบายขึ้น ไม่ลำบากเหมือนแต่ก่อน พระองค์พระราชทานโครงการในพระราชดำริต่างๆ ให้มากมาย มีคลองระบายน้ำ มีแก้มลิงเพื่อรองรับน้ำในการแก้ปัญหาน้ำท่วม มีการส่งเสริมอาชีพต่างๆ รู้สึกประทับใจอย่างมาก วันนี้จึงพร้อมใจกันเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพด้วยความอาลัยยิ่ง
นายพร้อมพร อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้จัดการส่วนความปลอดภัย อาชีวนามัยและสิ่งแวดล้อม บริษัท พีพีพี ฟินิล จำกัด กล่าวภายหลังร่วมเป็นเจ้าภาพพระบรมศพว่า ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวง ร.9 ที่พระราชทานชื่อให้ เนื่องจากแต่ก่อนคุณพ่อรับราชการเป็นทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์อยู่ในพระบรมมหาราชวัง จึงมีโอกาสได้รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท ทั้งนี้ครอบครัวมีภูมิลำเนาอยู่ จ.น่าน สมัยก่อนมีสภาพทุรกันดารมาก แต่พระองค์ก็เสด็จฯไปทรงงานและเยี่ยมเยียนช่วยเหลือประชาชนอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะราษฎรบนพื้นที่สูง เนื่องจากขณะนั้นมีการปลูกฝิ่นเป็นจำนวนมาก พระองค์ได้บอกให้ประชาชนเลิกปลูกฝิ่น จากนั้นทรงส่งเสริมให้ราษฎรหันมาปลูกพืชเมืองหนาวภายใต้โครงการพระราชดำริ นอกจากนี้ ในพื้นที่ยังมีปัญหากลุ่มคอมมิวนิสต์ พระองค์ก็ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์แก่ รพ.น่าน เพื่อนำไปช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ ทำให้ รพ.น่านในขณะนั้นพัฒนาขึ้นมากและมีความพร้อมในการรักษา
“จ.น่านห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 750 กม. ในอดีตการเดินทางก็ยากลำบาก คนจะไปต้องเป็นคนที่ตั้งใจไปจริงๆ ขณะที่การปรับปรุงและพัฒนาต่างๆ ถ้าไม่ได้พระองค์เสด็จฯไป คงไม่สำเร็จ เพราะพระองค์ทรงนำระบบไฟฟ้า น้ำประปา ตลอดจนระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เข้าไปในพื้นที่ อย่างไรก็ดี ได้เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท โดยร่วมกับกลุ่มเพื่อนและวิทยาลัยชุมชน จ.น่าน ทำโครงการฟื้นฟูป่าให้ภูเขาหัวโล้น เพื่อสานต่อพระราชปณิธานในการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ และทุกวันนี้จะสอนลูกว่า เราอยู่ในราชสกุลต้องช่วยเหลือคน หรือหากยังช่วยเหลือใครไม่ได้ ก็ขอให้เป็นคนดีและทำดีให้สังคม” นายพร้อมพรกล่าว
