ชัชชาติ หวังมี Food Bank ทุกจังหวัดทุกอำเภอ สร้างไทย ‘ประเทศแห่งการแบ่งปัน’
เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร เขตสะพานสูง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร นายแสนยากร อุ่นมีศรี ผอ.สำนักพัฒนาสังคม นายสุพจน์ หล้าจำศีล ผอ.เขตสะพานสูง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเปิดธนาคารอาหาร หรือศูนย์ BKK Food Bank ในพื้นที่เขตสะพานสูง ซึ่งเป็นเขตที่ 50
นายชัชชาติกล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญที่ กทม.เปิด BKK Food Bank ครบทั้ง 50 เขต ซึ่งเป็นจุดที่รวบรวมของบริจาคจากประชาชนที่อยากจะแบ่งปันให้เพื่อนๆ แล้วก็ กทม.ทำหน้าที่เป็นผู้แจกจ่ายให้กับกลุ่มผู้เปราะบาง กทม.มีรายชื่อกลุ่มเปราะบางจำนวน 23,476 ราย แจกไปแล้ว 5,330 ราย
นายชัชชาติกล่าวว่า หลักการของโครงการนี้คือการแบ่งปันกัน เชื่อว่าในกรุงเทพฯ มีทรัพยากรเพียงพอสำหรับทุกคน แต่อาจจะไปอยู่กับคนใดคนหนึ่งเยอะ หรือบางคนขาด กทม.จะเป็นตัวกลางเชื่อมโยงการแบ่งปันได้ ตนเคยเห็นโครงการนี้ในหลายประเทศทั่วโลก เชื่อว่าอนาคตคนทั้งโลกจะมาดูงานที่ กทม. เพราะเราเป็นเมืองที่มีน้ำใจแบ่งปันกัน โครงการนี้ไม่ได้ใช้งบประมาณของราชการ ของทุกอย่างมาจากการบริจาคทั้งหมด
นายชัชชาติกล่าวว่า วิธีการคือให้คะแนนคนละ 300 คะแนน สามารถมาเลือกของได้อย่างมีศักดิ์ศรี ถ้าเรามีเยอะเราจะสามารถแจกหมุนรอบได้เร็วขึ้น อีกรูปแบบหนึ่งคืออาหารสด ที่ยังไม่หมดอายุ แต่อาจจะขายไม่ได้แล้ว กทม.เป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างผู้ให้และกลุ่มเปราะบาง ที่ผ่านมา กทม.รับบริจาคแล้วกว่า 2 ล้านมื้อ หรือเกือบ 5 แสน กิโลกรัม
ส่วนเรื่องความยั่งยืนของโครงการต้องทำให้ประชาชนไว้ใจเรา วันที่สำเร็จคือตัว Food Bank ต้องยืนได้ด้วยตัวเอง ต้องมีประชาชนหมุนเวียนเข้ามาบริจาค โดยต้องให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ มีการทำบัญชี รวมถึงต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ อย่างที่สำนักงานเขตบางขุนเทียนนำบาร์โค้ดมาใช้ เหมือนในซูเปอร์มาร์เก็ต อาจจะมีการแจกเป็นคูปองหรือพ้อยต์ในวอลเล็ต
“เป็นสิ่งที่ดี ที่เห็นว่าคนในเมืองกรุงมีน้ำใจแบ่งปันกัน หน้าที่ของ กทม.ต้องทำศูนย์เหล่านี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อไปนี้ถ้าอยากช่วยคนที่ยากลำบากให้มาที่เขตได้เลย ทุกสำนักงานเขตรับของบริจาค ในวันเกิด วันที่อยากแบ่งปัน เราจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงสะพานบุญระหว่างเรากับผู้ที่ขาดแคลน เป็นโครงการที่เราพูดไว้ตั้งแต่เราเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ 2 ปีกว่า ก็สำเร็จแล้ว หวังว่าจะกระจายไปทั่วประเทศทุกจังหวัดทุกอำเภอ เพื่อให้เกิดการแบ่งปัน สร้างให้เป็นประเทศแห่งการแบ่งปัน” นายชัชชาติกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันในกรุงเทพฯ ยังมีประชาชนกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้มีรายได้น้อย ตกงาน รวมถึงผู้ประสบภัย ที่ยังขาดแคลนอาหารและเครื่องอุปโภคบริโภคเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็พบว่า 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตเป็นอาหารส่วนเกิน (Food Surplus) และถูกทิ้งเป็นขยะทุกวัน กทม.จึงจัดทำโครงการ BKK Food Bank ธนาคารอาหารขึ้น โดยเป็นตัวกลางในการรวบรวมอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค จากผู้ที่อยากแบ่งปันเพื่อนำไปมอบให้กับผู้ที่ขาดแคลน โดยจัดเป็นที่เก็บของคล้ายๆ ร้านสะดวกซื้อ และให้กลุ่มผู้เปราะบางที่อยู่ในฐานข้อมูลของแต่ละเขตมาเลือกของที่ต้องการ เช่น ข้าวสาร ไข่ น้ำปลา น้ำตาล เสื้อผ้า และของใช้ในชีวิตประจำวัน โดยนำแต้มที่เขตมอบให้มาแลกของที่ต้องการ
โดย BKK Food Bank สามารถส่งต่ออาหารบริจาคได้ 444,869 กิโลกรัม หรือนับเป็นมื้อได้ 1,868,453 มื้อ ถึงมือผู้รับซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางแล้ว รวม 5,330 ราย จากข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ 23,476 ราย กลุ่มที่เข้ามารับบริการมากที่สุด ได้แก่ ผู้สูงอายุ 36% ประชาชนผู้มีรายได้น้อย 33% เด็ก 12% ผู้ด้อยโอกาส 6% คนพิการ 5% เด็กในศูนย์เด็กเล็กฯ 4% ผู้ป่วยติดเตียง 3% และคนไร้บ้าน 1% ประเภทอาหารที่มีน้ำหนักมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เบเกอรี่ 312,023.91 กิโลกรัม อาหารปรุงสุกพร้อมทาน 34,664.62 กิโลกรัม ข้าว 32,604.6 กิโลกรัม ผักและผลไม้ 16,981.9 กิโลกรัม น้ำเปล่า 14,552.21 กิโลกรัม คิดเป็นปริมาณคาร์บอนที่ลดได้ 1,125,521.04 กิโล CO2e