เมื่อวันที่ 12 กันยายน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. ร่วมกันสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง และ พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์ ,ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น.เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. จับกุมนายธีรภัทร นามมั่น อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ได้ที่จอดรถบ้านเอื้ออาทรสวนพูลพัฒนา แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม.
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ตามนโยบาย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้เร่งปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดีออนไลน์ ซึ่งสร้าง ความเดือดร้อนของประชาชนโดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ของสืบนครบาลพบว่าเฟซบุ๊ก ชื่อว่า “สรรเสริญ อภิชาติ” หลอกว่าเป็นทหารที่หมดสัญญาที่ทำอยู่ในสาธารณรัฐเยเมน จะส่งเงินดอลลาร์มาให้แต่ให้ผู้เสียหายเป็นหญิงอายุ 70 ปี เสียภาษีให้กับรัฐบาลไทยเป็นจำนวน 23,000 บาท โดยให้แบ่งจ่ายโอนเป็น 2 งวด ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินจากบัญชีธนาคารไปยังบัญชีธนาคารคนร้ายตรวจสอบพบเป็นบัญชีม้า จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรก 15,000 บาท , ครั้งสอง 8,000 บาท เมื่อโอนเงินแล้วต่อมาไม่สามารถติดต่อกับบุคคลดังกล่าวได้จึงเชื่อว่าถูกหลอกให้โอนเงินจึงมาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับคนร้ายและพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอหมายจับนายธีรภัทร เจ้าของบัญชีรับเงินดังกล่าว
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวอีกว่าชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การว่าเมื่อประมาณปี 2566 เจอเฟซบุ๊กจ้างเปิดบัญชีเนื่องจากขณะนั้นเดือดร้อนเรื่องเงินจึงตกลงเปิดบัญชีธนาคาร 3 บัญชี ผู้จ้างส่งโทรศัพท์มือถือพร้อมซิมทางพัสดุเอกชนมาให้ผู้ต้องหาลงติดตั้งและทะเบียนแอพพลิเคชั่นผูกกับบัญชีธนาคารทั้ง 3 บัญชีจากนั้นผู้ต้องหาจึงส่งบัญชีธนาคารพร้อมบัตรเอทีเอ็มและโทรศัพท์มือถือกลับไปให้ผู้จ้างทางพัสดุเอกชนโดยรับค่าตอบแทน 3,000 บาท หลังสอบสวนเบื้องต้นจึงนำตัวส่ง สภ.คูคต ดำเนินคดี
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวขอแจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพโรแมนซ์สแกม หลอกลวงให้รัก หว่านล้อมด้วยคำพูดทำให้หลงรัก ให้ความหวังว่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป มุกเดิมๆของแก๊งโรแมนซ์สแกม ส่วนใหญ่แฝงตัวในแอพพลิเคชั่นหาคู่ต่างๆ บนโลกออนไลน์ จนคนในสังคมรู้ทันจากการสร้างโปรไฟล์ปลอมที่ดูดีน่าเชื่อถือ หลอกว่าเป็นนักธุรกิจ มหาเศรษฐี และออกกลอุบายต่างๆ มาหลอกเพื่อเอาทรัพย์สิน เหยื่อแก๊งโรแมนซ์สแกมมักเป็นคนโสด หย่าร้าง เป็นม่าย เนื่องจากความเหงา อาจเป็นผู้สูงอายุที่อยู่ลำพัง ขาดการดูแลอย่างใกล้ชิดจากบุตรหลาน เป็นสาวใหญ่ที่แสวงหารักแท้ หรืออาจจะเป็นใครก็ได้ที่ไม่ระแวดระวังตนเอง มองโลกในแง่ดีเกินไป เชื่อคนง่ายจนตกเป็นเหยื่อ ขอให้มีสติในการใช้สื่อออนไลน์ “ไม่เชื่อ ไม่เร่ง ไม่รีบ ไม่โอน”