ซิวแท็กซี่ ทิ้งนักท่องเที่ยวมอเตอร์เวย์ อ้างสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ปรับสูงสุด2,000บาท

เมื่อเวลา 16.30น. วันที่ 23 กุมพาพันธ์ ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ(สปพ.) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สายตรวจ และพ.ต.ต.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ สว.งานสายตรวจ2 ร่วมกันแถลงจับกุม นายวิฑูรย์ บริสุทธิ์ อายุ 42 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาขับรถสาธารณะทอดทิ้งผู้โดยสารระหว่างทาง ได้ที่ในซอยมิถุนา20 แยก 5 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง หลังจากพบว่านายวิฑูรย์ นำ นายการ์รอน เอสเมอร์ราโด เรย์เยส ชาวฟิลิปปินส์ ไปทิ้งบริเวณมอเตอร์เวย์

แท็กซี่1

พ.ต.ต.วสันต์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นายการ์รอน โดยสารรถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง ไม่ทราบทะเบียน มาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่แท็กซี่กลับปล่อยลงบริเวณริมถนนมอเตอร์เวย์ ขาเข้า ต่อมาเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือและนำส่งสถานทูตฟิลิปปินส์ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จนทราบว่ารถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ทะเบียน 1 มก1040 กรุงเทพมหานคร เข้ามารับนักท่องเที่ยว บริเวณชั้น4 ช่องที่8 มุ่งหน้ามอเตอร์เวย์ (ฝั่งขาเข้า) จึงออกติดตาม และสามารถจับกุมนายวิฑูรย์ ไว้ได้ และนำไปเปรียบเทียบปรับขั้นสูงสุด 2,000บาท

ด้านนายวิฑรย์ กล่าวว่า ผู้โดยสารเรียกรถที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่คุยกันไม่รู้เรื่องจึงขอปฏิเสธ พร้อมกับยกกระเป๋าผู้โดยสารลงจากรถ แต่ผู้โดยสารยืนยันที่จะไปและยืนยันว่าจะบอกทางทีหลัง แต่เมื่อขึ้นรถมาถึงที่เกิดเหตุ ตนถามว่า”Go to bangkok ” แต่ผู้โดยสารปฏิเสธว่าไม่ไป ให้ตนจอด แต่ในมอเตอร์เวย์ จอดไม่ได้จึงขับออกมาบริเวณปั๊มน้ำมันตรงจุดเกิดเหตุ และช่วยกันพูดคุยโดยให้ผู้โดยสารเขียนลงในกระดาษว่าจะไปไหนและถ่ายรูปกระดาษที่เขียนแล้วส่งไปให้เพื่อนที่ทำทัวร์ แต่ไม่มีใครรู้ ส่วนผู้โดยสารก็พยายามเดินคุยกับคนอื่นๆ ตนเรียกให้มาคุยกันก่อนก็ไม่มา อยู่ตรงนั้นประมาณ 30 นาที จึงตัดสินใจขับรถออกไป ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับเพื่อนร่วมอาชีพหากเจอกรณีแบบตนอย่าทิ้งผู้โดยสาร แต่ให้นำไปส่งที่สถานีตำรวจ ป้อมตำรวจท่องเที่ยว หรือสถานทูต เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือต่อไป

ด้านพล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า การกระทำของนายวิฑูรย์ ทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยเสื่อมเสีย ทั้งนี้รัฐบาลเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่กวดขันแท็กซี่ที่ปฏิเสธผู้โดยสาร ไม่กดมิเตอร์และแท็กซี่ที่มีปุ่มกดมิเตอร์ที่ใหลอกลวงผู้โดยสาร การกระทำกรณีนี้มีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา100 และมาตรา158 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน1เดือน หรือปรับไม่เกิน2,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ADVERTISMENT

ด้านนายการ์รอน กล่าวว่า เดินทางมาจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และจะต่อเครื่องไปที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยลงเครื่องที่ไทย เวลา07.00น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ และจะต่อเครื่องเวลา 16.00น. ในวันเดียวกัน