เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล รองประธานกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเครือข่ายภาคประชาชนมีความกังวลกรณีที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เมื่อเร็วๆนี้ ถึงปัญหาความล่าช้าในการขอจดสิทธิบัตรของต่างประเทศ ซึ่งอาจใช้ม.44 ของคสช. ในการแก้ปัญหานั้น หากเป็นจริงจะส่งผลกระทบในวงกว้าง เนื่องจากเรื่องสิทธิบัตรยาไม่ควรพิจารณาหรือให้สิทธิบัตรเร็วเกินไป แต่ควรมีขั้นตอน และการตรวจสอบที่ละเอียดมากกว่านี้ โดยเฉพาะสิทธิบัตรในรูปของ evergreening patent ซึ่งเป็นสิทธิบัตรที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก ไม่มีความเป็นนวัตกรรมอะไรมาก แต่กลับระบุว่าเป็นของใหม่ ยาใหม่ ทำให้ราคาแพงขึ้น
“เร็วๆนี้พวกเราจะไปขอเข้าพบกับอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อหารือถึงเรื่องนี้ และอยากให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ออกมาแสดงความคิดเห็น หรือข้อกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย เพราะอย.ได้ส่งผู้แทนลงไปมีส่วนร่วมในการแก้พ.ร.บ.สิทธิบัตร ฉบับใหม่ ซึ่งจะมีในเรื่องการเปิดให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยสามารถคัดค้านการขอสิทธิบัตรได้มากกว่าเดิม รวมทั้งการปรับค่าขึ้นทะเบียนขอสิทธิบัตร และการดูความเป็นนวัตกรรม โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนายาใหม่ๆเพื่อประชาชน” น.ส.กรรณิการ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนจะเข้าใจผิดว่าออกมาคัดค้านเรื่องม.44 ที่ก่อนหน้านี้คสช.ออกคำสั่งในการแก้ปัญหาความล่าช้าการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพของอย. น.ส.กรรณิการ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ พวกตนกังวลเรื่องการออกม.44 ฉบับใหม่เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนสิทธิบัตร
วันเดียวกัน นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่า สำหรับคำสั่งม.44 ของคสช.ที่ก่อนหน้านี้ออกมานั้น เป็นในเรื่องแก้ปัญหาการขึ้นทะเบียนของยาแลผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆให้รวดเร็วขึ้น ไม่ได้เกี่ยวข้องว่าจะไปทำให้สิทธิบัตรยาได้ขึ้นทะเบียนเร็วหรือได้ง่ายกว่าเดิม ที่สำคัญม.44 ไม่ได้พูดถึงประเด็นการขึ้นทะเบียนสิทธิบัตร อย่างไรก็ตาม ส่วนการขึ้นทะเบียนยาจะมีคณะกรรมการพิจารณาจากทุกฝ่าย และยังมีอนุกรรมการพิจารณาอีก ซึ่งมีทุกภาคส่วนร่วมพิจารณา ดังนั้นไม่ต้องกังวล
“ขณะนี้ อย.กำลังเร่งออกกฎกระทรวงเพื่อให้สามารถทำงานได้ตาม ม.44 ทั้งแก้อุปสรรค ลดขั้นตอนการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ จึงขอย้ำว่า ม.44 เพื่อมาช่วย และทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น รวมทั้งยังมุ่งเน้นการปกป้องผู้บริโภค จึงไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้เกิดผลกระทบกับผู้บริโภค” นพ.วันชัย กล่าว
