กรณีเกิดปัญหาผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งมีปริมาณขยะสะสมกว่า 1.2 ล้านตัน และชาวบ้านพื้นที่ใกล้เคียงได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำบ่อขยะฯ รั่วไหลลงพื้นที่เกษตรกรรมและแหล่งน้ำสาธารณะ หวาดวิตกว่าจะเกิดอันตรายต่อสุขภาพจากกลิ่นขยะและน้ำเสียที่ ไหลผ่านขยะนั้น
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ นายสุวรรณ นันทศรุต รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า จากปัญหาน้ำท่วมกับสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลนครนครศรีธรรมราช คพ. ได้ลงพื้นที่ติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมและให้ข้อเสนอแนะกับจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้แนวทางการแก้ไขปัญหาหลังน้ำลดทั้งระยะสั้น ให้เร่งจัดเก็บขยะมูลฝอยให้หมดจากพื้นที่ชุมชน ทำความสะอาดบริเวณโดยรอบชุมชน สำรวจความเสียหายสถานที่กำจัดขยะมูลฝอย ระยะกลาง เทศบาลนครนครศรีธรรมราชควรดำเนินการจัดทำคันกั้นโดยรอบสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยให้มีความสูงอย่างน้อย 2 – 3 เมตร เพื่อป้องกันการไหลของน้ำชะมูลฝอยจากสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยออกสู่พื้นที่โดยรอบ และระยะยาว ควรเร่งดำเนินการปรับปรุงสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยให้ดำเนินการกำจัดอย่างถูกหลักวิชาการ เพื่อลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนโดยรอบ
นายสุวรรณ กล่าวว่า สำหรับการกรณีการนำน้ำเสียไปบำบัดยังระบบบำบัดน้ำเสียชุมชน พบว่า ไม่เหมาะสม เนื่องจากน้ำเสียที่มาจากกองขยะมีค่าความสกปรกมาก คือ 2,000 – 3,000 มิลลิกรัมต่อลิตร เกินกว่าระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนจะรองรับได้ หากรับเข้ามาจะทำให้ระบบเสียหายได้เพราะระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนออกแบบให้รองรับได้เพียงบีโอดี (BOD) ที่ 80 มิลลิกรัมต่อลิตร
“การแก้ไขปัญหาน้ำเสีย คพ.มีข้อเสนอแนะทางวิชาการ ดังนี้ ดำเนินการเก็บขนขยะมูลฝอยออกจากบ่อบำบัดน้ำเสียบ่อที่ 1 ออกให้หมด ปรับปรุงบ่อบำบัดน้ำเสียทั้ง 3 บ่อ โดยการเสริมคันดินโดยรอบของบ่อ ติดตั้งเครื่องเติมอากาศในบ่อบำบัดน้ำเสียบ่อที่ 2 และ 3 เพื่อเติมอากาศ จัดทำรางรองรับน้ำเสียโดยรอบพื้นที่กองขยะมูลฝอยทั้งหมด โดยคำนึงถึงการไหลตามแรงโน้มถ่วง เพื่อให้น้ำเสียที่เกิดขึ้นจากกองขยะมูลฝอยไหลลงสู่บ่อบำบัดน้ำเสียบ่อที่ 1 ขุดบ่อบำบัดน้ำเสียบ่อที่ 4 (บ่อใหม่) ในพื้นที่ว่างด้านติดกับระบบบำบัดน้ำเสียรวมของเทศบาล โดยต้องคำนึงถึงปริมาตรน้ำเสียที่จะเกิดขึ้น และจัดทำท่อลำเลียงน้ำเสียจากบ่อที่ 3 ไปกักเก็บยังบ่อที่ 4 (บ่อใหม่) ดินที่เหลือจากการขุดบ่อใหม่ให้นำมาใช้เพื่อปรับปรุงบ่อบำบัดน้ำเสียที่เหลือ หรือกลบทับขยะมูลฝอย ข้อเสนอนี้เป็นข้อเสนอทางเทคนิคที่ใช้เป็นมาตรการชั่วคราวในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ในการดำเนินการท้องถิ่นเจ้าของสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยต้องเป็นผู้ดำเนินการ”รองอธิบดี คพ.กล่าว
