เปิดใจ ข้าราชการบำนาญ สักการะพระบรมศพ 61 ครั้ง ถวายความจงรักภักดี-กตัญญู ในหลวง ร.9

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 120 ประชาชนจากทั่วประเทศแต่งกายชุดดำสุภาพ มาต่อแถวรอกราบถวายสักการะไม่ขาดสาย และที่บริเวณด้านหน้ากำแพงพระบรมมหาราชวัง เยื้องประตูเทวาภิรมย์ กลุ่มดอกไม้รักพ่อ นำโดยอาจารย์จิ๊บมหาชัย (หมอดู) ร่วมกับจิตอาสามาจัดลานดอกไม้เพื่อให้ประชาชนที่มากราบพระบรมศพและนักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก สร้างความประทับใจ และบอกรักในหลวง ร.9 ด้วยดอกไม้จากหัวใจ โดยวันนี้นำดอกไม้ อาทิ กล้วยไม้แวนด้า ดาวเรือง กุหลาบ ฯลฯ วางเป็นตัวอักษร “รักพ่อ” พร้อมจัดดอกไม้เป็นรูปทรงหัวใจ และเลข “๙” ซึ่งประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาต่างให้ความสนใจถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

น.ส.นฤมล แซ่เจ็ง อายุ 65 ปี ข้าราชการบำนาญ พักอาศัยย่านบางกรวย นนทบุรี มากราบถวายสักการะพระบรมศพเป็นครั้งที่ 61 กล่าวว่า ทุกครั้งที่มามีแต่ความตื้นตันใจ ปลาบปลื้ม ทุกครั้งที่พนมสองมือแล้วก้มลงกราบน้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเหตุผลที่มาบ่อยขนาดนี้เพราะอยากอยู่ใกล้ชิดพ่อหลวงให้มากที่สุด อยากมีโอกาสได้กราบพระองค์ทุกวัน ที่ผ่านมาพระองค์ทรงงานหนักทุกวันอย่างไม่มีวันหยุด ทรงทำทุกอย่างเพื่อให้คนไทยทุกคนอยู่ดีกินดี ดังนั้นในฐานะที่เป็นอดีตข้าราชการเป็นข้าในพระองค์ การมากราบสักการะพระบรมศพก็ถือเป็นการถวายความจงรักภักดี และเป็นการถวายความกตัญญูต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชาผู้ทรงธรรมในหัวใจพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ

“เมื่อหลายสิบปีมาแล้วเคยมีโอกาสรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 ในวัดพระแก้ว ตอนนั้นพระองค์เสด็จฯมาทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต ครั้งนั้นมีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นคือ ดิฉันพาแม่ที่ป่วยกระเสาะกระแสะไปด้วย พอหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรง ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระดำเนินพรมน้ำมนต์ให้แก่ประชาชนที่นั่งรายล้อมอยู่รอบพระอุโบสถ ซึ่งพอแม่ดิฉันที่กำลังป่วยพอได้รับน้ำมนต์จากพระองค์เท่านั้น ก็ทำให้แม่หายป่วยไม่ต้องไปพบหมออยู่ 3 เดือน อย่างไรก็ดี ประทับใจหลักคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทั้งหมดเลย แต่ที่ประทับใจที่สุดคือเรื่องความพอเพียง ที่สอนให้คนไทยใช้ชีวิตอยู่บนความพอดี ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาทเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง เพราะทุกวันนี้เราก็ยึดหลักคำสอนเรื่องความพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ฟุ่มเฟือย มีเท่าไรก็ใช้เท่านั้น” น.ส.นฤมลกล่าว

S__1179784

Advertisement

นางเฉลิม เทียนสันเที๊ยะ อายุ 76 ปี ชาว อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เดินทางมากราบถวายสักการะพระบรมศพเป็นครั้งที่ 14 มาพร้อมญาติ กล่าวด้วยสีหน้าปลาบปลื้มว่า เป็นวันที่มากราบพระบรมศพที่คุ้มค่ามาก เพราะก่อนเข้าแถวรอกราบพระบรมศพ ได้ไปต่อแถวซื้อเหรียญที่ระลึกรัชกาลที่ 9 รุ่นสุดท้ายของกรมธนารักษ์ จากนั้นต่อแถวเข้ามากราบพระบรมศพซึ่งวันนี้รอไม่นาน และตอนเดินออกยังได้ซื้อสมุดบันทึกพระราชทาน ปี 2560 กลับไปอีก ตั้งใจว่าจะนำไปเก็บเป็นที่ระลึกและเก็บไว้ให้ลูกหลานดู

“พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ไม่เหมือนใคร ที่จะทรงงานเพื่อคนไทย ทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อคนไทย กระทั่งเวลาตี 2 ตี 3 ที่คนไทยหลับกันแล้ว พระองค์ยังไม่เข้าบรรทม เพราะยังทรงงานเพื่อคนไทย นอกจากนี้ยังชอบทุกโครงการพระราชดำริของพระองค์ เพราะทำให้ประเทศเจริญ ขณะที่ต่างประเทศก็น้อมนำโครงการพระราชดำริไปใช้ อาทิ หญ้าแฝก อย่างไรก็ตามจะสอนลูกสอนหลานให้รู้จักพระองค์ น้อมนำคำสอนมาใช้ เพื่อความเจริญของชีวิต” นางเฉลิมกล่าว

นางเฉลิม (ขวา)
เฉลิม เทียนสันเที๊ยะ (ขวา)

นางภาพรศิลป์ ศิริวิโรจน์สกุล อายุ 62 ปี ชาวบางบอน กรุงเทพฯ เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งที่ 40 พร้อมเพื่อน กล่าวว่า แต่เดิมตั้งใจว่าจะเข้ากราบสักการะพระบรมศพจำนวน 9 ครั้ง แต่เมื่อมาครบ 9 ครั้งแล้ว ยังรู้สึกปลื้มปีติ อยากมากราบสักการะพระบรมศพให้มากที่สุดเท่าที่มีโอกาส ตนรู้สึกปลาบปลื้มพระองค์ทุกเรื่อง ยิ่งมีโอกาสได้ชมนิทรรศการเย็นศิระ เพราะพระบริบาล ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวง ทำให้ทราบถึงพระราชกรณียกิจนานัปการของพระองค์ยิ่งปลื้มปีติและตื้นตันเป็นที่สุด

Advertisement

“ตั้งแต่พระองค์สวรรคตก็ได้ร่วมเป็นอาสาสมัครทำข้าวพอเพียง และดอกไม้จันทน์สำหรับใช้ในงานพระบรมศพ ส่วนการน้อมนำคำสอนพระองค์มาใช้ พยายามสอนลูกหลานให้ทำความดีตามเบื้องพระยุคลบาทของพ่อหลวงให้มากที่สุด โดยไม่ต้องสนใจว่าความดีที่ทำนั้นเป็นอะไร ทำให้มากที่สุดก็พอ” นางภาพรศิลป์กล่าวทั้งน้ำตาคลอ

นางภาพรศิลป์ (ซ้าย)
ภาพรศิลป์ ศิริวิโรจน์สกุล (ซ้าย)

 

S__1179785

S__1179786

S__1179789

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image